สูญเสียตลอดกาล
😅 ปล.ไรท์ไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเป็นบ้า ย้ำคิดย้ำทำ เลยไม่จบสักที
ผลั่ก! ! "ถอยไปแทค" ชายตัวขาวรูปร่างสูงโปร่งยันมือของตนออกไปจนสุดแรง เค้าพยายามดันชายตรงหน้าที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าเค้าเท่านึงออกไปให้พ้นทางตัวเอง
" ถอยไปซะแทค...อย่ามาขวาง..นายมาจับฉันทำไม..ปล่อยแขนฉันนะ!!" ชายร่างขาวตวัดสายตาคมกริบของตนใส่ผู้ชายที่พุ่งตัวมาขวางและคว้าแขนเค้าไว้
"ปล่อยเธอไปก่อนเถอะคุณ..” ชายผิวเข้มตวัดลำแขนกอดรั้งเอวของชายผิวขาวเข้าในอ้อมกอดตัวเองแทนที่จะจับเเค่เเขน ยิ่งนิชคุณดื้อดึงแทคยอนก็ยิ่งออกแรงรวบเพื่อนของตนไว้มากขึ้น
" ปล่อย!!..แทคนายทำบ้าอะไร..ปล่อยคุณเดี๋ยวนี้..ปล่อย!! " นิชคุณออกแรงดิ้นสุดกำลัง แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ชายหนุ่มผิวขาวต้องการคุยกับว่าที่ภรรยาของเค้า ซึ่งตอนนี้พ่อแม่เธอกำลังพาเธอไปต่อหน้าต่อตา ครอบครัวเธอไม่มีใครให้คำตอบเรื่องการยกเลิกงานแต่งที่กระชั้นชิดแบบนี้
"จี..จีจะทิ้งคุณเหรอ..ไม่รักคุณแล้วเหรอ...บอกเหตุผลคุณหน่อยได้ไหม!!" คนตัวขาวตะเบ่งสุดเสียง เมื่อร่างของคนรักก้าวขึ้นรถของพ่อเธอไป นิชคุณอยู่ใกล้ซูจีมาก เค้ามั่นใจว่าจีต้องได้ยินเสียงเค้าแน่ แต่หญิงคนรักกลับเลือกที่จะเมินเชยต่อคำอ้อนวอนของเค้า
"จี...คุณทำผิดอะไร..จีให้คุณแก้ตัวได้ไหม..จีได้โปรด!!...จีอย่าทิ้งคุณนะ!!" ใบหน้าชายผิวขาวเปื้อนหยดน้ำตา น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลินออกมาไม่ขาดหาย ดวงตากลมโตที่เคยฉายแววสดใส บัดนี้มันช่างมัวหมอง จนแทบจะทำให้เพื่อนตัวโตอยากจะปล่อยแขนของตัวเองออก
‘แทคขอโทษ..แทคไม่รู้ว่าจะช่วยจียังไง และช่วยนายยังไง...คุณแทคขอโทษ’
แทคยอนไม่อยากให้ซูจีลูกพี่ลูกน้องของเค้าต้องเจ็บปวดมากไปกว่าเปัญหาของเธอตอนนี้ เธอไม่เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง ไม่มีคำพูดใดที่เธออยากจะกล่าวออกมาณเวลานี้ เธอกำลังเจ็บปวดแสนสาหัญ ความจริงเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของเค้าเลย เค้าเป็นเพียงคนนอก แต่คุณอาพ่อของจีขอร้องเค้าไว้ ทุกคนที่รู้ปัญหานี้ลงความเห็นกันว่า มีเพียงแทคคนเดียวที่น่าจะรั้งนิชคุณได้ คนเดียวที่สนิทพอที่จะหยุดนิชคุณได้
"ปล่อยเธอไปซะคุณ..เธอกำลังลำบาก" แทคยอนเปรยคำพูดข้างหูเพื่อนคนสนิท
"ปล่อยบ้าอะไร..เธอกำลังจะทิ้งฉันนะ...มีเรื่องลำบากก็ควรจะบอกคุณตรงๆสิ...เป็นแฟนกันนะยังไงคุณก็ต้องช่วยอยู่แล้ว..เจอปัญหาเลยเลือกจะทิ้งคุณเหรอ ...เธอบอกฉันไม่ได้ ทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ" นิชคุณตวาดกร้าว
"กลับบ้านไปทำให้หัวเย็นก่อนดีกว่านะ..แล้วแทคจะเล่าให้ฟังทีหลัง" แทคยอนคลายอ้อมแขนออกจากตัวคนร่างบาง เค้าเพ่งสายตามองใบหน้าขาวๆเปื้อนคราบน้ำตาของเพื่อนอย่างหนักใจ
"บอกมาตอนนี้แหละ..!!" นิชคุณกระตุกคอเสื้อแทคยอนทันทีที่มือและแขนเค้าเป็นอิสระ
"ไม่ใช่ตอนนี้ วันนี้...ขอเป็นตอนที่นายมีสติมากกว่านี้..เอาเป็นพรุ่งนี้ดีกว่านะ " แทคยอนค่อยๆเเกะมือเรียวสีขาวออกจากคอเสื้อของตัวเอง แต่มันไม่ง่ายเลย
" ฉันโดนว่าที่เจ้าสาวถอนหมั้นนะแทค...ลูกพี่ลูกน้องของนายหักหลังฉัน...และนายก็ร่วมมือกับเธอ...จีเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องหรือนายกับเธอเกินเลยกันมากกว่านั้น" คนผิวขาวจ้องหน้าเพื่อนสนิทตาเขียวปั้ด
" เกินไปนะคุณ!!..." แทคยอนตาขวางใส่ชายตรงหน้าเพียงชั่ววินาทีเดียว ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาเรียบนิ่งเหมือนเดิม
"นายควรจะกลับบ้านไปซะตั้งแต่ตอนที่แทคยังอารมณ์ดีจะดีกว่า" แทคยอนกระตุกข้อมือขาวอย่างแรงจนกรงเล็บของนิชคุณหลุดออกจากคอเสื้อเค้าง่ายๆ
"แทค..คุณขอร้องล่ะ..คุณทำอะไรผิดรึเปล่า..คุณทำผลาดอะไรเหรอ" ชายผิวขาวทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น เค้าก้มตัวลงเพื่อขอร้องชายตรงหน้าจากใจจริง สองมือเรียวยาวเอือมคว้าขาคนตรงหน้า
"อย่าทำแบบนี้เลย..อย่าทำให้แทคลำบากใจเลยนะ..ขอร้องล่ะ" แทคยอนชักขาหลบมือนิชคุณ เค้าตัดสินใจที่จะหันหลังให้เพื่อน ณ ตอนนี้เค้าไม่ควรใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการอยู่ต่อ
'เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ไม่มีวันแก้ไขได้..ไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่านี้แล้วคุณ' แทคยอนได้แต่เปรยในใจ
ชายตัวขาวนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน เวลาล่วงเลยผ่านไป1ชม.ก็แล้ว 2ชม.ก็แล้ว แทคยอนยืนคุยโทรศัพท์ไป เฝ้ามองเพื่อนจากข้างหน้าต่างห้องตัวเองไป เค้าอยากพูดความจริง อยากให้นิชคุณตัดใจ อยากให้เพื่อนคนสำคัญของเค้าหยุดโทษตัวเอง
"ขอโทษนะจี..แทคทนไม่ได้" แทคยอนตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันทีที่จีอนุญาติให้เค้าบอกความจริงกับอดีตคนรักของเธอได้ ซูจีและครอบครัวของเธออยู่สนามบิน เธอและพ่อแม่ตัดสินใจที่จะเดินทางออกนอกประเทศ และอาจจะไม่กลับมาอีก
" คุณ..." แทคยอนเดินมาหยุดยืนหน้าชายที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับพื้นถนนไม่ไปไหน
"แทค..เราสนิทกันไม่ใช่เหรอ..เราไม่เคยมีความลับต่อกันไม่ใช่เหรอ..อึก..อือไอ้โปรด" นิชคุณเปรยคำพูดแผ่วเบา สลับกับเสียงสะอื้นไห้
"คุณ..จีท้อง...." แทคยอนกล่าวเสียงเบา
ผลัวะ!!
ยังไม่ทันที่เพื่อนตัวโตจะทันได้พูดจบ คนฟังก็ลุกขึ้นซัดหมัดใส่หน้าคนพูดเต็มแรง
"ท้อง!!.นายพูดเรื่องบ้าอะไร..!!" นิชคุณแผดเสียงใส่หน้าเพื่อน
"ช่วยฟังให้จบก่อนได้ไหม..ให้ตายสิ!!...นายชกหน้าฉันทำไม!!" แทคยอนพูดพลางเช็คคราบเลือดที่จมูกตัวเอง
"ขอโทษ!!...แต่นายพูดบ้าอะไร...ไม่ใช่เรื่องจริงแน่!!" ชายผิวขาวส่ายหน้ายิก
"จีท้อง..และจะเก็บเด็กไว้" เพื่อนตัวหนาพูดต่อโดยไม่สนใจท่าทีไม่ยอมรับความจริงของนิชคุณ
"หยุดพูดเรื่องโกหกซะ..หุบปากไปซะ!!" นิชคุณตวาดลั่นตาเขียวปั๊ด
"ถ้านายรับเรื่องเด็กได้..บางทีเธออาจกลับมาหานาย" แทคยอนประสานสายตากลับ เค้าไม่กลัวนิชคุณเลย ตอนนี้มีแต่ความสงสาร
"ฉันบอกให้นายหยุด!!.." นิชคุณสวนหมัดเข้ากลางลำตัวแทคยอนโดยที่แทคไม่ทันได้ป้องกันตัว
"ถ้าการใช้ความรุนแรงทำให้นายยอมรับความจริงได้..ก็เอาเท่าที่นายพอใจ..ถ้ารับเรื่องเด็กไม่ได้..ก็วางมือจากจีซะ...ถ้านายยอมรับได้ ฉันจะคุยกับจีให้" แทคยอนกัดฟันทน เค้ายกมือกุมหน้าท้องตัวเอง
"ไอ้เพื่อนเลว..ฉันบอกให้นายหยุดพูดไม่ได้ยินเหรอ!!" นิชคุณซัดหมัดใส่ลำตัวแทคยอนอีกหลายหมัด
"ฉันบอก..ให้นายหยุดพูด..นายไม่เข้าใจเหรอ .อึก..อึก" เพื่อนตัวขาวซบหน้าลงกับแผ่นอกหนาของคนตรงหน้า
"นาย..ต้องการเหตุผลไม่ใช่เหรอ..มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ดีสำหรับคนที่ต้องจากกันแบบนี้หรอกนะ" แทคยอนลูบหลังนิชคุณแผ่วเบา
"ยืนรอตรงนี้นะ..เดี๋ยวฉันไปเอารถมารับ..กลับไปนอนที่บ้านนะ...วันนี้นายนอนกับฉันที่นี่ไม่ได้" แทคยอนสั่งและนิชคุณก็พยักหน้ารับหงึกๆแต่โดยดี
หลังจากส่งเพื่อนสนิทกลับบ้าน เจ้าแมวตัวโตก็กลับมาคอนโดตัวเอง เค้ารู้สึกเจ็บๆที่หน้าท้อง เมื่อถลกเสื้อขึ้น ก็เป็นอันรู้กันว่า เพื่อนตัวขาวของเค้าที่เข้ายิมชกมวยทุกวันไม่เสียเงินค่าจ้างเทรนเนอร์จริงๆ
'จะช้ำในไหมเนี่ย!! ...โอ๊ย..ปวดหัวเป็นบ้าเลย..เจ็บตัวทีไรทำไมมันไปปวดที่หัวทุกทีสินะ' แทคยอนบ่นงึมงำก่อนอาบน้ำนอน
เช้าวันรุ่งขึ้นเมฆคลึ้มดำทะมึน พนักงานออฟฟิตรีบแต่งตัวออกจากบ้านเพราะกลัวจะไม่ทันห่าฝนที่มีแนวโน้มว่าจะตกในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
"แทค!!หน้าไปโดนอะไรมา...ช้ำเชียว" ปู่แดกูทักรุ่นน้องคนสนิมที่มีตำแหน่งเป็นเลขาท่านประธานอย่างตกตะลึง
"เดินชนกระจกเมื่อคืนน่ะพี่" แทคยอนตอบกลับพร้อมยิ้มแหยงๆ หน้าน่ะไม่เท่าไหร่ แต่หน้าท้องเค้านี่สิ
"อ่า...เจ็บแย่เลย...ว่าแต่ไอ้คุณยังไม่มาเหรอ....เช้านี้มีประชุมนะ" พูดจบคิมจุนซูก็เบะหน้า
แทคยอนมองไปยังห้องทำงานของเจ้านายเค้าอย่างครุ่นคิด
"พี่จุน..เดี๋ยวผมมานะ..ถ้าหากว่าผมมาไม่ทันพี่ประชุมกันไปก่อนเลยนะครับ" แทคยอนรวบกระเป๋าและกุญแจรถออกจากออฟฟิตทันที
RRRRRR....RRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR
"ทำไมไม่รับโทรศัพท์คุณ!!" ชายผิวเข้มเริ่มกังวลจนนั่งไม่ติดเบาะรถ เค้ารีบเข้าบ้านเพื่อนและพบว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ แต่ข้าวของอยู่ครบ
"นายไปไหน..บ้าเอ้ย!!" เพื่อนผิวเข้มร้อนใจวิ่งไปทั่วบ้าน
"คุณ!!" แทคยอนผวาเมื่อเห็นเพื่อนคนสนิทนอนเเช่น้ำจนตัวขาวซีด ด้านบนขอบอ่างน้ำมีทั้งขวดเบียร์ เหล้า โซจู กระจัดกระจายเกลื้อนไปหมด
"บ้าเอ้ย!!..นายทำบ้าอะไร...กินเหล้าตอนแช่น้ำเดี๋ยวก็ตายกันพอดี!!" แทคยอนสบถรีบรวบร่างนิชคุณขึ้นจากน้ำ เค้าจับคนตัวเล็กกว่าแต่งตัว และรีบพาไปโรงบาล
"นายทำบ้าอะไร...อยากตายเหรอ....อย่าทำแบบนี้อีกนะ" แทคยอนนั่งหน้าซีดจับมือนิชคุณแน่น เมื่อนิชคุณเริ่มรู้สึกตัว
"ฉันไม่อยากเจอนาย...นายออกไปได้ไหม" นิชคุณเริ่มสะอื้นออกมาอีก
"อืม..ได้..เดี๋ยวฉันให้พี่ควอนมาอยู่เป็นเพื่อนนะ" แทคยอนรับคำอย่างว่าง่ายแต่มือสีเข้มยังรั้งมือคนบนเตียงแน่น
"ฉัน..." นิชคุณพยายามดึงมือตัวเองออกจากมือแทคยอน
"เอาไว้..คุณสบายใจเมื่อไหร่..บอกละกัน" แทคยอนยอมปล่อยมือนิชคุณแต่โดยดี เค้าส่งยิ้มละมุนละไมให้เพื่อน แต่นิชคุณกลับพลิกตัวหนีไปอีกข้าง
"ทำใจให้สบาย...อย่าคิดมากนะ" คนตัวใหญ่ลุกขึ้นมองเพื่อนตัวขาวชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจออกจากห้องพักผู้ป่วย
"พี่ควอน..มาอยู่เป็นเพื่อนคุณที่โรงบาลหน่อยได้ไหม...คุณไม่สบายน่ะ" แทคยอนยืนกลั้นน้ำตาอยู่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วยหลังจากที่เค้าเดินออกมา
"ไม่สบาย!!..เป็นอะไรมากรึเปล่า...แล้วนายล่ะ?....แล้วน้องจีรู้รึยัง? " โจควอนสับสนที่อยู่ๆแทคยอนโทรมาขอให้เค้าไปอยู่เป็นเพื่อนนิชคุณ ทั้งที่ปกติ2คนนั้นตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋
"ผม...พี่ควอน...อย่าเพิ่งพูดถึงจี....อย่าเอ่ยถึง..ฝากบอกคนอื่นด้วย...งานแต่งล้มเลิกแล้ว..2คนเลิกกันแล้ว" แทคยอนตอบกลับเสียงเบาหวิว เค้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
"ห๋า!!" โจควอนร้องเหว๋อเสียงดัง
5วันผ่านมาแล้ว นิชคุณก็ยังปฏิเสธที่จะเจอแทคยอน ในขณะที่แทคยอนก็ลางานเช่นกัน สถานการณ์ในออฟฟิตโกลาหล เจ้านายป่วย เลขาลาหยุด
"คุณ..นายมีปัญหากับแทครึเปล่า" ปู่แดกูถามตรงๆ วันนี้เป็นกะของเค้าที่ต้องเข้ามาเอนเตอร์เทนบอสที่โรงบาล
"..." บอสใหญ่นิ่งเงียบงัน
"โอเค..ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร..ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนาย3คน..แต่...แทคลางานด้วยนะ....ติดต่อก็ไม่ได้....หายไปเฉยๆเลย" ปูแดกูยื่นซองขาวให้นิชคุณ
"พี่ยังไม่ได้อ่าน..แต่เห็นมันวางอยู่ที่โต๊ะทำงานนาย" ปู่แดกูถือซองจดหมายค้างอยู่นาน แต่บอสของเค้าไม่ยืนมือมารับ
"ยังไม่อยากอ่านตอนนี้ก็ไม่เป็นไร..พี่วางไว้ที่โต๊ะตรงนี้นะ..แล้วก็ควรรีบๆกลับมาทำงานได้แล้ว..เอกสารจะล้นออกนอกประตูออฟฟิตแล้ว..โตๆกันแล้ว เลิกงอนกันหันมาคุยกันตรงๆแบบที่ผู้ใหญ่ควรจะทำซะ..เพื่อนที่ดีหาไม่ได้ง่ายๆนะ....อย่าปล่อยให้สิ่งดีๆมันหายไป" ปู่แดกูลุกขึ้นตบบ่ารุ่นน้องเบาๆก่อนขอตัวกลับไปทำงาน
5วันก่อนหน้านี้
"เป็นอะไรมาครับ" หมออายุรกรรมหน้าตาดีถามอาการคนไข้ใหม่ของเค้า
"ผม..ปวดหัว ปวดตื้อๆครับ..ใจสั่นๆด้วย" แทคยอนยกมือกุมขมับข้างนึง ส่วนอีกข้างเค้ากางมือขยุ้มผมข้างขมับตัวเองแน่น ใบหน้าคนไข้แดงจัด ริมฝีปากซีด ร่างกายเค้าเย็น แต่เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นจนเสื้อเชิ้ตของเค้าเปียกโชก
"มีอาการอื่นอีกไหมครับ" คุณหมออายุกรรมถามพร้อมกับเช็คร่างกายโดยรวมให้แทคยอน
"หัวใจคุณเต้นเร็วมาก..ความดันสูงพอสมควร..ก่อนหน้านี้ได้ดื่มแอลก์ฮอลหรือออกกำลังกายหักโหมมารึเปล่า.." คุณหมอซักประวัติละเอียด เมื่อถลกเสื้อคนไข้ขึ้น หมอพบรอยช้ำสีม่วงที่หน้าท้องหลายรอย
"เดี๋ยวผมขอตรวจร่างกายคุณแบบละเอียดได้ไหมครับ..เดี๋ยวออกไปแล้วนั่งรอพยาบาลข้างหน้าห้องตรวจนะครับ" คุณหมอหนุ่มยิ้มบางๆให้คนไข้
"ไม่เอาพยาบาลผู้หญิงได้ไหมครับ" เสียงแทคยอนสั่นระริก
" เอ่อ..ได้ครับ..คุณ!!..บ้าชิบ!!..พยาบาลลลลล!!ไปเอาเตียงมา" หมอหนุ่มตกใจที่อยู่ๆคนไข้ของเค้าก็เซตัวล้มลงจากเก้าอี้
"โฮ ..นายจัดการตรวจเลยนะพี่ฝากหน่อย..สเปคนายนี่" หมอหนุ่มเจ้าของไข้ขอร้องเพื่อนหมอรุ่นน้องที่เพิ่งมาเริ่มงานวันแรกพอดี
" ตลกล่ะพี่.." จุนโฮมองร่างคนไข้ตัวโตที่นอนนิ่งบนเตียงยาวเซงๆ
"..คดีอาญานะพี่..เค้าโดนทำร้ายมา..ถึงไอ้รอยช้ำพวกนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับอาการที่มารักษาก็เหอะ" จุนโฮเปิดเสื้อแทคยอนขึ้น เค้าเห็นรอยช้ำเป็นวงกว้าง โชคดีที่หมอนี่กระดูกไม่หักไม่ร้าว..แต่รอยขนาดนี้คงเจ็บไม่ใช่น้อย
"นายชอบไม่ใช่เหรอ...คุยกับพวกในเครื่องแบบเนี่ย" หมอหนุ่มเจ้าของไข้เปรย.เสียงร่า.หัวเราะคิกคัก
"แล้วตรวจไม่เจออะไรเลยเหรอ..ที่ปวดหัวหรือใจสั่นน่ะ" จุนโฮถามพี่หมอ
"อืม..ปกติดีทุกอย่างนะ..ลองให้นอนโรงบาลดูอาการไป2-3 วันก็ได้นะ" พี่หมอสำทับ
"ก็คงงั้น..แล้วติดต่อญาติได้ยัง" จุนโฮกังวลเรื่องนี้พอควร..ผู้ชายคนนี้ถือสัญชาติอื่นถึงเค้าจะเป็นคนเกาหลี แต่ในบัตรประจำตัว..หมอนี่อาจเป็นนักท่องเที่ยว หรือแค่กลับมาไหว้หลุมศพพ่อแม่ก็ได้
RRRR RRRRRRRRRRRRRRRR RRRRRRRRRRRRRR
" ครับ..คุณเป็นญาติคุณแทคยอนรึเปล่าครับ" จุนโฮโทรไปตามเบอร์ที่คนไข้เเจ้งไว้ แต่เจ้าเลขหมายนี้ เจ้าของเบอร์โทรศัทพ์นี้อยู่นอกเกาหลีแน่ๆ แถมติดต่อยากซะด้วย
" ครับ..ผมเป็นพี่ชายเค้า..มีอะไรรึเปล่าครับ" คนปลายสายเสียงดังขึ้นนิดหน่อย
"ครับ..น้องคุณไม่สบายนอนอยู่โรงบาล..และเค้าโดนทำร้าย..เราอยากให้คุณมารับเค้า..และคุยกับตำรวจครับ" จุนโฮตอบกลับเสียงเรียบ
"ที่ไหน!! ...แทคอยู่โรงบาลไหน..เดี๋ยวผมจะรีบไปทันที" คนปลายสายดูเหมือนจะสติแตกจนไม่ทันคิดว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกับน้องชายแน่ๆ
จุนโฮฉีกยิ้มหวานๆไม่ทันรู้ตัว เค้าคิดว่าคนปลายสายน่ารักดี คงต้องรักน้องชายมากแน่ๆ
" ครับ××××××××" จุนโฮบอกที่อยู่โรงบาลไป และฝากเรื่องไว้กับเจ้าหน้าที่พยาบาล ตอนนี้เค้าหิวๆๆๆๆ เค้ามีเวลาว่าง4 ชม.ก่อนกลับมาเข้ากะอีกรอบ
4ชม.ผ่านไป หมอลีจุนโฮกลับมาเข้าเวรอีกครั้ง
"เป็นอะไรรึเปล่าครับ" ชายร่างใหญ่ย่อตัวลงมาพยุงร่างหมอโฮให้ยืนขึ้นแบบนุ่มนวล เร็วจนจุนโฮไม่ทันได้ตำหนิหรือต่อว่า
"นี่..นามบัตรผม..ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น..เอ่อถ้าคุณเจ็บ..หรือต้องใช้ค่ารักษาพยาบาล..ติดต่อมาตามเลขหมายในบัตรนะครับ..ผมขอโทษจริงๆ..ตอนนี้ผมต้องรีบไปทำธุระ" ชายตรงหน้ากล่าวสำทับพร้อมโค้งตัวทำเคารพ90องศา แล้วก็วิ่งจากไป ทิ้งให้หมอจุนโฮยืนถือนามบัตรนิ่งค้างอยู่กลางลานจอดรถ
"หล่อ..และมารยาทดี..ที่สำคัญรวยนะเนี่ย" หมอโฮจ้องชื่อเจ้าของนามบัตรและชื่อบริษัทในแผ่นนามบัตรสวยหรูตาวาว
"ควาน ชานชอง..ชื่อดี..มีแฟนรึยังนะ" จุนโฮฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี เค้าเพิ่งกลับมาจากคอนโดเพื่อมาทำงานต่อ แต่เคสที่เค้าต้องไปพบเป็นเคสอีกเคสของพี่หมอหนุ่มหล่อคนเดิม
"คนไข้อยากกลับบ้านค่ะหมอ.." เจ้าหน้าที่พยาบาลยื่นแฟ้มประวัติให้หมอจุนโฮ
"อืม..เมาหลับในอ่างอาบน้ำทำไมอยู่นานจัง..ตรวจแล้วปกติ ไม่เจ็บ ไม่มีอาการแทรกซ้อน เป็นผมส่งกลับไปตั้งแต่วันแรกแล้ว" จุนโฮเปิดแฟ้มประวัติคนไข้ เค้าอ่านคร่าวๆและสะดุดกับชื่อใครบางคนคุ้นๆ
"พี่พยาบาลครับ..เออตรงนี้มันเขียนว่า..คนนำส่ง..หมายถึงคนที่พาตัวคนไข้มารึเปล่าครับ" จุนโฮขมวดคิ้วติดกัน
' แสดงว่า2คนนี้รู้จักกันสินะ......เข้ารักษาวันเดียวกันด้วย??? ' จุนโฮยืนคิดชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปคุยกับคนไข้ในแฟ้มประวัติ
"สวัสดีครับคุณนิชคุณ..อาการวันนี้ดีขึ้นมากแล้วสินะครับ..เห็นคุณแจ้งว่าอยากกลับไปทำงาน.." หมอโฮประเมิณท่าทีผู้ป่วยบนเตียงที่ยังดูเหม่อลอย
"นอนต่ออีกสักวันไหมครับ...ผมว่าคุณยังไม่พร้อมไปทำงานนะครับ" จุนโฮรอบมองคนไข้บนเตียงที่ยังนิ่งทำเหมือนเค้าไร้ตัวตนพูดคนเดียว
'ส่งไปแผนกจิตเวชเถอะ..หมอนี่หลุดไปนอกขอบจักรวาลแล้วมั้งเนี่ย' จุนโฮถอนหายใจเบาๆ
" เอ่อ..หมอขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ..คุณนิชคุณ..เอ่อคุณนิชคุณ..รู้จักผู้ชายผิวเข้มๆตัวสูงๆที่ชื่อแทคยอนไหมครับ" หมอลีถาม
เพล้ง!! แจกันแก้วเนื้องามลอยเฉียดหน้าลีหมอจุนโฮไปนิดนึง
'พระเจ้า..ลูกเพิ่งกลับมาจากชายแดน.ท่านยังประเคนของขวัญส่งท้ายให้ลูกอีกชิ้นหรือ' จุนโฮทำหน้าหยู่ทันที โชคดีที่เค้าประสาทไว และพึ่งนอนหลับพักผ่อนมาแบบเต็มตื่น
"หยุด!!..พูดชื่อหมอนั่นได้ไหม!! " ชายบนเตียงตาเขียวปั๊ด หัวเสียสุดๆ
"..อ่า!!..ใจเย็นๆครับ!! " หมอโฮยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้
"โอเคครับๆ...ผมสรุปเองแล้วว่าคุณ2คนรู้จักกัน..คุณพอรู้ไหม..ช่วงนี้เค้ามีเรื่องชกต่อยกับใครรึเปล่า..ผมเกรงว่าทางพี่ชายเค้าอาจจะต้องการตัวคนที่ทำร้ายเค้าน่ะครับ" จุนโฮเปรยออกมา เค้าคิดว่าเค้าพอรู้ตัวคนทำล่ะ
"พี่ชายงั้นเหรอ...แทคนายมันปลิ้นปล้อนจนหยดสุดท้ายเลยสินะ..คุณคิดว่าเค้าโดนทำร้ายหรือ
หึ..เค้าทำตัวเองตะหาก...แล้วหมอนั่นก็ไม่มีพี่ชายหรอกนะ...หมอนั่นมันลูกคนเดียว...จะมีแค่พี่ชายกำมะลอได้ละมั้ง" นิชคุณแสยะยิ้มพล่ามออกมาเป็นฉากๆ
หมอจุนโฮยืนงงกับข้อมูลที่ขัดแย้งกับความคิดของเค้า 'หมอนี่เพี้ยนรึเปล่าเนี่ย?'
"มันจบแล้วชาน" ควาน ชานชองเข็นรถนั่งของน้องชายมาหยุดที่ประตูห้องพักนิชคุณ แทคยอนแง้มประตูและได้ยินทุกอย่างที่เพื่อนสนิทพูดให้ร้ายเค้า ชานตัเสินใจพาน้องชายกลับบ้าน แทคยอนนอนเกยตักพี่ชายของเค้าในรถลีมูซีนสีขาวคันยาว
"อยากร้องไห้...ไหม" ชานชองลูบกลุ่มผมสีดำดกยาวของน้องชายแผ่วเบา
"ถ้าแทคไม่ช่วยจี...เรื่องก็ไม่เป็นแบบนี้..แต่ถ้าแทคไม่ช่วยจี..บางที..." แทคยอนเริ่มเบ้หน้า น้ำตาหลายหยดล้นทะลักเปื้อนไปทั่วมือของชานชอง
ควาน ชานชองยกมือปิดตาให้น้องชาย เค้ารู้ว่าแทคไม่ชอบร้องไห้ให้ใครเห็น ถึงแม้จะเป็นเค้าก็ตาม
....................................................................................................................................................
"เอ๊!!...กลับไปแล้ว...กลับไปตอนไหนครับ..ใครมารับเค้าไปครับ..ผมสั่งแล้วนี่ว่าต้องเป็นพี่ชายเค้าเท่านั้น แล้วกว่าเค้าจะบินข้ามทวีปมาก็เป็นวันแล้ว...ถ้ามาเร็วขนาดนี้คงต้องเครื่องบินติดจรวดล่ะ!!" จุนโฮหงุดหงิดขึ้นมาทันที เค้าอยากคุยกับญาติผู้ป่วยเรื่องอาการปวดหัว และหมดสติ เค้าอยากให้คนไข้ไปรับการตรวจอีกครั้ง และให้ญาติคอยสังเกตุอาการ
" ..นามสกุลไม่เหมือนแต่เค้าให้นามบัตรไว้ค่ะ..เค้าบอกว่าถ้ามีปัญหาให้โทรไปได้24ชม."
"แล้วเค้าไม่เอาเรื่องรอยแผลที่ตัวน้องเค้ารึไง..ไอ้หมอนี่รักน้องจริงไหมวะ..หรือหมอนั่นทำร้ายตัวเองจริงๆ" จุนโฮเปรยกับตัวเองอย่างสับสน
"เอ่อ..คนไข้ไม่แจ้งความค่ะ..เค้าบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน..พี่ชายก็หล่อมากค่ะหมอ..ดูเหมือนรักมากๆนะคะ...จนหมือนคู่รักมากกว่าเลยล่ะ" นางพยาบาลส่งนามบัตร สีดำเรียบหรูให้หมอโฮ
ลีจุนโฮยืนมองนามบัตรแบบไม่วางตา 'พระเจ้าช่วย!!...โลกกลมจังเว้ย'
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น