วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561

เศษเสี้ยวความทรงจำแห่งรัก3 (คุณแทค)

 

              สัญญาใจ...ชายในฝัน

 

 
"คุณมีชื่อเรียกสั้นๆไหม หรือชื่อเล่นอะไรแบบนี้" หมอจุนโฮถามเสียงเรียบขณะค่อยๆใช้ปลายนิ้วอวบบีบหลอดยาเนื้อครีมสีขาวมาแตะที่ต้นคออดีตคนไข้เบาๆ หมอจุนโฮนวดคลึงต้นคอที่เขียวช้ำจากรอยสันมือของเค้าบนต้นคอนิชคุณเบาๆ

"ทำไมต้องทำแบบนั้นล่ะ...ใช่ว่ าหลังจากนี้ผมกับหมอจะต้องเจอกันอีกซะเมื่อไหร่" นิชคุณกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆกับความเจ็บแปล๊บๆที่ไล่ตามรอยสัมผัสจากมืออวบหนาบนต้นคอเค้า

"อย่าว่างั้นงี้เลยนะครับ...หลังจากนี้เราคงเจอกันบ่อยๆน่ะ" จุนโฮพูดต่อแบบไม่สนใจ

"เอาเป็นว่าคุณจะเรียกผมว่า..จุนโฮ..หรือหมอโฮ..ก็ตามแต่คุณเลย..แต่ผมจะเรียกชื่อคุณแบบที่ลูกน้องคุณเรียก..เอาแบบนั้นล่ะกันนะครับ..ไอ้ลูกหมา" จุนโฮพล่ามยาวพลางหัวเราะทิ้งท้ายเมื่อพูดจนถึงคำว่าไอ้ลูกหมา

"..ใครใช้ให้คุณเรียกผมแบบนั้น..อย่ามาสรุปอะไรไร้สาระแบบนี้กับผมนะ..โอ้ย!!..อ๊า.บ้าชิบ"
 นิชคุณพลิกตัวกลับไปพูดกับคนที่ยืนนวดคอให้เค้าอยู่ด้านหลัง ดังนั้นเมื่อคอเค้าขยับ นิชคุณก็อุทานเสียงหลง
"ผมว่านะคุณ...แปลกๆเนอะ..โฮว่าคุณรีบตัดสินใจดีกว่าว่าจะย้ายมาอยู่กับโฮหรือจะให้โฮย้ายไปอยู่บ้านคุณ...โฮบอกแล้วว่าอย่าเพิ่งขยับตัว..เดี๊ยะก็คอหักหรอก" จุนโฮเอ็ดเสียงหลง
"ใครจะย้ายกัน..ทำไมต้องย้าย.." นิชคุณหัวเสีย ใบหน้าเค้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด
 
"ก็คุณทำตัวไว้ใจไม่ได้เองนี่...โฮเลยต้องเลยตามเลย"จุนโฮพูดเสียงหวานประกอบใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์
"ไว้ใจได้ไม่ได้บ้าอะไรของนายเนี่ย" นิชคุณเริ่มงงกับบทสนทนา
 
"คุณน่ะเป็นพวกโมโหแล้วขาดสตินะ..โฮก็ไม่ได้อยากยุ่งกะคุณหรอก..แต่มีผู้หวังดีเค้าขอร้องให้โฮดูแลคุณน่ะสิ" จุนโฮกล่าวพร้อมใบหน้าที่เข้มงวดขึ้น รอยยิ้มหวานหายไปจากใบหน้าคุณหมอตาตี่
"ใครขอ..พวกรุ่นพี่เหรอ" นิชคุณถามอย่างสับสนมากขึ้นอีก
 
"โฮบอกไม่ได้ว่าใครขอ..แต่ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไปห้ามคุณทำอะไรบ้าๆอีก..และทำใจซะ..โฮจะตามติดคุณเป็นเงาตามตัวเลย" จุนโฮแสยะยิ้ม
"บ้าแล้ว..555...นายเป็นหมอนะ..ไม่ใช่บอดี้การ์ดสักหน่อย" นิชคุณเหว๋อและรู้สึกหัวเสียกับคู่สนทนาตัวเองสุดๆ เช้านี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย
"หมอทหารครับ...โฮทำงานในค่ายทหารมาก่อน..ดังนั้นว่า..การทำตัวเป็นทั้งผู้ติดตามและเป็นทั้งหมอสำหรับโฮมันไม่ได้ยาก..ดีซะอีกนะ..โฮก็ไม่ชอบทำงานในโรงบาล..เบื่อจะแย่...เมื่อมีคนเสนองานดีๆ..เงินหนักๆให้...ก็ไม่แปลกที่โฮจะไม่รับงานนี้...แต่โฮบอกไว้เลย..ถ้าคุณทำตัวงี่เง่า..ครั้งหน้า..คุณจะไม่เจ็บแค่ที่คอแน่" จุนโฮพล่ามยาวขึ้น บทสนทนาดูจริงจังมากขึ้นเรื่อย..จนเจ้าของต้นคอกลืนน้ำลายลงคอไม่ถนัดเพราะดูท่าว่าไอ้คนที่ฟาดต้นคอเค้าเมื่อคืนจะเอาจริง
 
"เหอะ...ไร้สาระ..นายคิดว่าฉันกลัวงั้นเหรอ...เห็นแบบนี้..ฉันก็นักกีฬานะ..ฉันไม่ยอมเจ็บฝ่ายเดียวหรอก" นิชคุณพ่นลมออกจากปากอย่างไม่พอใจพลางเล่นเกมส์จ้องตากับไอ้หมอที่แทบจะไม่มีตาให้จ้อง
 
คนบ้าอะไรตาจะตี่ขนาดนี้ฟะคนผิวขาวบ่นอุบอิบในใจ
"ผมไม่สนใจคำพูดคุณหรอก..นวดคอเสร็จรึยัง..ผมจะกลับบ้านแล้ว" นิชคุณพ่นลมออกจากปากอย่างแรงจนผมด้านหน้าของเค้ากระพืมขึ้นตามแรงลม
"คุณนี่เป็นคนแบบนี้ตลอดรึเปล่า...แบบงี่เง่ามาตั้งแต่เกิดอะไรแบบนี้น่ะ..เอาเถอะถ้ามีปัญญากลับบ้านได้ก็กลับไปนะ...แต่ระวังคอหลุดจากบ่าระหว่างทางกลับล่ะ" จุนโฮเปรยคำพูดอย่างรำคาญอีกครั้ง
'ไหนคุณบอกว่า..ไอ้หมอนี่ปกตินิสัยดีไง..นี่มันไม่ได้เข้าใกล้คำว่านิสัยดีเลยนะครับจุนโฮบ่นงึมงำในใจ
"เออ..ถ้าคอหลุดกลางทาง..ผมจะมาหลอกหลอนคุณคนแรกเลย..คุณเป็นฟาดคอผม..จริงๆผมควรจะฟ้องร้องคุณด้วยซ้ำนะที่ทำร้ายร่างกายผมน่ะ" นิชคุณแยกเขี้ยวใส่เจ้าของเตียงที่เค้านั่งอยู่
 
'บ้าเอ้ยขยับนิดเดียวยังเจ็บขนาดนี้..แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนกลับบ้านฟะ..โทรเรียกรถพยาบาลดีไหมเนี่ย.." นิชคุณคิดหนัก..ปากเค้าไวกว่าความคิดมาก ตั้งแต่เค้าสูญเสียซูจีไป
มันเหมือนกับบางสิ่งบางอย่างในตัวเค้าหายไป ตอนแรกเค้าไม่รู้ว่าอะไรที่หายไป แต่หลังจากที่ได้นอนโรงบาล2 อาทิตย์ เค้ารับรู้ว่า เค้าสูญเสียสติ และการควบคุมตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง และผลกระทบที่เค้าได้รับมาเต็มๆคือ เค้าทำให้สัตว์เลี้ยงของเค้าหนีออกจากบ้านไป
 
เช้าวันรุ่งขึ้นนิชคุณถูกหมอโฮหนีบไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพื่อไปทำเรื่องขอพักงาน และทำหน้าที่ขับรถพานิชคุณมาส่งที่ทำงาน
 "โอ๊ะ!! คุณหมอมาทำอะไรที่นี่ครับ” พี่แก่ทักทันทีเห็นชายร่างอวบใบหน้าคุ้นตาเดินผ่านประตูออฟฟิตเข้ามา
“มาทำงานครับ” หมอโฮตอบพร้อมคลี่ยิ้มสดใส
“ทำงาน...ทำงานที่ไหนครับ” โจควอนถามเพิ่มอีกเสียง
“ที่นี่...อาจจะสักช่วงนึงน่ะครับ” ลีจุนโฮตอบคำถามเพื่อนร่วมงานก่อนจะปรี่ตัวไปที่ห้องทำงานเมื่อสังเกตุว่าชายคนที่เค้าคุมตัวมา ปิดประตูใส่เค้า
“คุณเปิดประตูเดี๋ยวนี้!!” หมอจุนโฮตะโกนลั่น แต่คนด้านในเมินเฉยต่อคำเรียกร้อง
“นายคิดดีแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้!!” จุนโฮเหยียดยิ้ม
 
ปึ้ง!!
บานประตูตรงหน้ากระเด้งเปิดอย่างง่ายดายเมื่อหมอลี ถอยหลังออกมาเพียง1ก้าว เค้าง้างเท้าถีบบานประตูเต็มแรงจนบรรดาเพื่อนร่วมงานและเจ้าของบริษัทอย่างนิชคุณสะดุ้งเป็นทิวแถว
“โฮบอกคุณแล้วว่า....อย่างี่เง่าใส่โฮ” ชายร่างอวบที่มีอาชีพเป็นหมอก่อนหน้านี้ไม่กี่ชม.จ้ำอ้าวเข้ามาประชิดตัวอดีตคนไข้ของเค้า ฝ่ามืออวบหนาคว้าหมับเข้าที่มือชายตรงหน้าที่ยืนจังก้าขาตายด้วยความตกตะลึงก่อนหน้านี้ นิชคุณถูกดึงตัวปลิวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของหมอโฮอย่างง่ายดาย
 
“นายทำบ้าอะไรน่ะ..ปล่อยฉันนะ!!” นิชคุณดิ้นพล่าน เค้าไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามากอดแบบถือวิสาสะ
“งั้นก็อย่างี่เง่าสิ..ทำตัวดีๆ แล้วนายจะไม่เจ็บตัว..ข้าวของนายจะไม่พังด้วยเข้าใจไหม” จุนโฮส่งสายตาเเข็งกร้าวใส่คนในอ้อมกอด
 
“อะไรง่ะ!!” พี่แก่ โจควอน และมินโฮยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสับสน พวกเค้าวิ่งเข้ามายืนสลอนมองเจ้านายกับแขกไม่ได้รับเชิญคนใหม่
“ก็อย่างที่ผมพูดแหละครับ ผมจะอยู่ที่นี่เป็นพี่เลี้ยงให้บอสคุณสักระยะจนกว่าบอสคุณจะได้สติกลับมา..หลังจากนั้นผมกลับไปทำงานผมต่อ” ลีจุนโฮยิ้มหวาน พร้อมก้มตัว90องศาเคารพบรรดาเพื่อนร่วมงานใหม่ในที่ทำงานเค้า
            คุณหมอร่างอวบเดินหาที่นั่งให้ตัวเองในห้องทำงานส่วนตัวของเจ้าของบริษัทอย่างไปแคร์สายตาใคร
            “ตามสบายเลยครับ...ไม่ต้องสนใจผมหรอก คิดซะว่าผมเป็นของตกแต่งบ้านก็ได้นะ” จุนโฮส่งยิ้มหวานให้นิชคุณ
            ของตกแต่งบ้าน...หรือแม่ฉันวะ...ทำไมฉันต้องฟังสิ่งที่นายพูดด้วย...ให้ตายสิโว้ย!! นิชคุณสบถอย่างไม่สบอารมณ์
             ณ เมืองหลวงในประเทศอเมริกา บอสตันดินแดนแห่งประวัติศาสตร์น่าค้นหา

“ชาน!!..อาทิตย์นี้ไปโซลกัน” แทคยอนตามออเซาะพี่ชายมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว เค้าอยากไปเกาหลีในเดือนมิถุนายน
 
  “นี่มิถุนานะ...ไม่เอา....ร้อน...เดือนแห่งนรกชัดๆ” ชานชองแกะแขนน้องชายออกจากเอวตัวเองอย่างไร้เยื่อใย

            “ชานอ่า...ต้นมิถุนี่ยังไม่ร้อนเลยนะ” ชายผิวสีเบะหน้าใส่พี่ชาย

            “จะไปทำไมอ่า...อยากเที่ยวหรา...ไปที่อื่นกันไหม..ขอที่ไม่ร้อน” ชานชอนย่นคิ้วใส่น้องชาย
            “โซลมีกุญแจ......แทคอยากไป...แล้วมันก็ยังไม่ร้อน” แทคยอนขอร้องพี่ชายอีกครั้ง เค้าอยากไปเกาหลีวันนี้ เค้าอยู่บอสตันมาตั้งแต่เด็ก เคยได้ไปเที่ยวมาก็หลายประเทศ แต่ไม่เคยไปฝั่งเอเชียเลย ตอนที่เปิดเนตดูซีรีย์เกาหลี แทคยอนรู้สึกเจ็บในหัวใจ ความคับคาใจบางอย่างเหนี่ยวนำเค้า 
            “อีกสักอาทิตย์ได้ไหม” ชานชองยีหัวน้องชายเบาๆ
             "วันอาทิตย์ แทคต้องไปวันอาทิตย์" น้องชายเบะหน้าใส่พี่ชาย
             "อาทิตย์นี้...พูดเหมือนมันอีกหลายวัน" ควานชานชองล้วงมือถือจากกระเป๋าเสื้อโค้ทขึ้นมาดู
             "โอ๊ะโอ่ว...ต้องเดินทางคืนนี้เลยนะ...ไม่ไหวหรอก" พี่ชายร่างใหญ่ส่ายหน้าพัลวัน
 
              "ไม่เอา!!ต้องพรุ่งนี้ ต้องพรุ่งนี้" แทคยอนทิ้งตัวลงนอนกับพื้นบ้านดิ้นไปดิ้นมา
              "อย่างอแงเป็นเด็กสิ!! นายโตแล้วนะ” ชานชองเอ็ดตะโรเสียงดัง เค้ารู้ดีว่าทำไมน้องชายอยากไปเกาหลี ทำไมยืนยันว่าจะต้องเป็นวันนี้ การที่อยู่ๆน้องชายของเค้าความจำเสื่อมกระทันหันเป็นอะไรที่ทำให้ทั้งเค้าทั้งอาหมอต่างก็ตกใจ เหมือนแทคยอนจะจำช่วงเวลาที่เกิดขึ้นที่เกาหลีไม่ได้ ซึ่งอาหมอให้ความเห็นว่า อาจเป็นเพราะแทคเครียดจนเกินไป แต่ทั้งชานและคนในบ้านต่างก็คิดว่ามันเป็นเรื่องดี
               “........” คนตัวใหญ่นอนนิ่งกับพื้นบ้าน
             “แทค...นายเป็นอะไร!!” ชานชองตกใจเมื่อน้องชายนิ่งเงียบไป
 
             “แทคจะนอนตรงนี้แหละ” แทคยอนตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ นอนแน่นิ่งน้ำตาไหลอาบแก้ม
             “โอ๋!!....ชานขอโทษนะ....อย่าร้องไห้สิ......แต่คืนเดียวนะ...เที่ยวเสร็จต้องกลับบ้านเลย ชานไม่ให้ค้างนะ...ที่นั่นมันร้อน!!” ชานชองดึงน้องชายขึ้นมากอด เค้าแพ้น้ำตาของน้องชายหัวแก้วหัวแหวนเสมอ
 
            “จริงนะ...เดี๋ยวแทคมานะ..ชานห้ามเปลี่ยนใจนะ!!” น้องชายตัวโตซึ้ดน้ำมูก ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มจนทำให้หัวใจของผู้เป็นพี่พองโต
 
            “อืม” ชานชองนั่งมองน้องชายวิ่งหายลับเข้าไปในห้องนอนตัวเอง นี่เป็นวันแรกในรอบ2เดือนที่เค้าเห็นน้องชายยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้
           ควานชานชองเลือกใช้บริการเครื่องบินส่วนตัวของคุณพ่อเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ทั้งคู่นั่งเครื่องบินมาถึงโซล ประเทศเกาหลีในช่วงบ่ายๆของวัน อากาศไม่ร้อนอย่างที่น้องชายว่าจริงๆ ออกแนวจะหนาวๆ ครื้มฟ้าครื้มฝนซะด้วยซ้ำ แทคยอนวางแผนเที่ยวแค่ช่วงเย็นกับหัวค่ำ เด็กน้อยในร่างผู้ใหญ่ของควานชานชองเดินลิ่วปะปนไปกับฝูงชน แต่เพราะแทคยอนตัวสูง ทำให้ชานชองมองเห็นหัวน้องชายไปตลอดการเดินทาง
            “แทค...เดินช้าๆสิ!! นายจะไปไหนน่ะ” ชานชองตะโกนเรียกน้องชายเสียงดัง
            “เดี๋ยว!!!.....แทค” ชานชองเห็นท่าทีประหลาดของน้องชายเมื่อ เจ้าเด็กตัวแสบเดินปรี่เข้าไปหาผู้ชายคนนึงที่เดินควงแขนมากับแฟน
 
            “อ่า....ไม่ได้เจอตั้งนานคิดถึงแทคบ้างไหม” ชายผิวสีวิ่งเข้าไปกอดชายผิวขาวหน้าตาดีคนนึงที่หน้าร้านอาหาร
 
            “ย่า!!...นายเป็นใครวะ..บ้ารึเปล่า!!..” ชายแปลกหน้าสะบัดตัวจนหลุดออกจากอ้อมกอดชายตัวใหญ่ พร้อมผลักร่างคนตัวใหญ่กระเด็นลงไปนั่งกับพื้น
 
            “อ่ะ..คุณไม่ใช่..ขอโทษครับผมคงจำคนผิด...ผมขอโทษ” แทคยอนเบะหน้าจะร้องไห้ แต่ชานชองวิ่งเข้ามากอดปลอบก่อน
            “ขอโทษครับ....น้องชายผมเค้าไม่ได้ตั้งใจ” ชานชองรีบขอโทษขอโพยคนแปลกหน้าทันที
 
            “มองอะไรอยู่ครับคุณนิชคุณ” คู่ค้ารายใหม่ของนิชคุณทักขึ้น เมื่อเห็นคู่สนทนามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง
 
            “ขอโทษนะครับ..เดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยคุยกันต่อวันหลังได้ไหมครับ..ผมนึกได้ว่ามีธุระด่วน!!” นิชคุณสะดุ้งเมื่อถูกทักระหว่างที่เค้ามองไปที่ถนนฝั่งตรงข้ามกับร้าน เค้าเจอคนรูปร่างคุ้นตากำลังมีเรื่องกับคนที่เดินผ่านไปมา
            นิชคุณเป็นฝ่ายจ่ายเงินค่าอาหารให้กับคู่ค้าทางธุรกิจของเค้าก่อนจะปลีกตัวออกมา เค้าวิ่งไปหาชายคนดังกล่าว แต่ผู้ชายคนนั้นหายไปแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเค้า เค้ามั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดแน่
            “ชาน...หมีเต็มเลย!!” น้องชายผิวสีชี้ไปยังร้านขายตุ๊กตาที่อยู่ถัดไปข้างหน้า1บล็อค
            “ทำไม..อยากได้เหรอ..มีเงินเหรอ” หมีชานกระแซะน้องชายพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
            “แทคไม่มีแต่ชานมีนี่” แทคยอนกระแซะพี่ชายกลับ
            “อยากได้ต้องทำไงก่อน” หมีชานทำแก้มพองลมยื่นใส่หน้าน้องชายที่ตัวสูงไล่เลี่ยกันกับเค้า
            “อ่า...ชานชอบเล่นแบบนี้อยู่เรื่อยเลย” แทคยอนยิ้มเขินๆหอมแก้มฟอดใหญ่

           ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!!นิชคณยืนอึ้งเมื่อเห็นเลขาคนสนิทของตัวเองยืนหอมแก้มชายวัยกลางคนหน้าตาดี รูปร่างสูงใหญ่อยู่หน้าร้านขายกิ๊ฟชอป

            “แฟนเหรอ!!....ทำไมนายไม่เคยบอกฉัน???” นิชคุณบ่นพึมพำกับตัวเอง

             หมีชานพาแทคยอนเข้าไปเลือกซื้อตุ๊กตา ชายหนุ่ม2คนเดินจูงมือคุยกันกระหนุงกระหนิงจนพนักงานในร้านหันมองเป็นตาเดียวกัน คนเกาหลีที่ใช้ภาษาอังกฤษคุยกันบ่งบอกว่า ชาย2คนนี้อาจเป็นนักท่องเที่ยว นิชคุณเดินตามแทคยอนเข้าไปในร้านขายตุ๊กตา จนกระทั่งชานชองเริ่มรู้สึกตัวว่าเค้าถูกสะกดรอยตาม และเป็นความบังเอิญครั้งใหญ่ที่คนๆนั้นดันเป็นคนที่เค้าไม่อยากให้น้องชายเจอที่สุด

            “แทคหิวรึยัง  ไปกินข้าวกันไหม” ชานชองรีบพาน้องชายออกจากร้านขายตุ๊กตา เค้าพาแทคยอนไปทานอาหารอิตาเลี่ยน เลือกวิวที่ทั้งสวยและสูงให้เพื่อดึงความสนใจจากทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว


            “ย่าห์...นายอย่ากินเท่าแมวดมแบบนี้สิ...กระเพาะนายใหญ่ ตัวนายใหญ่นะ ร่างกายนายต้องการอาหารมากกว่านี้” ชานชองเอ็ดน้องชายที่ค่อยๆเล็มอาหารทีละน้อย ตั้งแต่แทคยอนป่วยเค้าทานอาหารน้อยลงทุกวัน

            “แทค....ปวดหัว” แทคยอนนั่งก้มหน้าก้มตาเค้ารู้สึกอึดอัดเหมือนถูกจับจ้อง 

            “นายต้องกินให้หมด” ชานชองรีบตักกุ้งตัวโตให้น้องชายหลายตัว

             “แทคไม่อยากกินแล้ว” แทคยอนเบือนหน้าหนีจานข้าวตรงหน้าตนเอง

            “งั้นกลับกันเลยละกัน” พี่หมีเตรียมจะเช็คบิล

             “เรายังไม่ได้ไปดูกุญแจเลยนะ...ชาน...พาแทคไปดูกุญแจนะ” แทคยอนเบะหน้ารั้งมือพี่ชายไว้มั่น

            “งั้นกินนี่หมดก่อนแล้วเราไปดูด้วยกัน” ชานชองตักกุ้งในจานป้อนถึงปากน้องชายที่นั่งเม้มปากแน่น
 
            เอาใจกันขนาดนี้เลยเหรอ....ดีจังนะมีคนคอยดูแล...เพราะงี้นายถึงทิ้งฉันสินะ” นิชคุณทำหน้ายู่อย่างไม่ชอบใจ  ชายผิวขาวสั่งแต่เครื่องดื่มมากิน เค้านั่งจ้องสัตว์เลี้ยงของตนตาไม่กระพริบ
 
             หลังจากทานข้าวเสร็จชานชองก็พาแทคยอนไปจุดชมวิว

             “อ่า....บนนี้มีอะไรน่าสนใจกันนะ” ชานชองมองไปรอบๆตัว เค้าเห็นแม่กุญแจแน่นเอี้ยดถูกล็อกไว้เต็มรั้ว

             “สัญญารัก...เราทำด้วยกันไหม” แทคยอนยิ้มแป้น

            “โอเค” ชานชองเขียนจดหมายด้วยข้อความที่เค้าต้องการจะสื่อถึงน้องชายของเค้า ในขณะที่แทคยอนเขียนข้อความถึงพี่ชายและใครอีกคนนึง  ทั้งคู่ล็อกกุญแจสีม่วงและเขียวซึ่งเป็นสีประจำตัวของตนเองเข้าหากัน ในขณะที่แทคซื้อกุญแจสีแดงและเขียวมาอีกคู่นึง แทคยอนไม่รู้ว่ากุญแจสีแดงมีความหมายกับเค้ายังไง หลังจากดูซีรีย์เกาหลี เค้าก็ฝันถึงชายผิวขาวหน้าตาสะสวยมาตลอด คนในฝันส่งยิ้มหวานและพูดว่าพวกเค้ามีพันธะสัญญากันที่นี่ 

         "สัญญานะ ว่านายจะมากับฉันทุกปี สีแดงเป็นของฉันและสีเขียวเป็นของนายจำไว้" เสียงหวานใสก้องกังวานในหัวแทคยอน

           ชานชองยืนมองสิ่งที่แทคยอนทำ เค้ารู้สึกผิดต่อน้องชาย เค้ารู้ว่าชายคนนั้นอยู่แถวนี้ แต่ในขณะที่ความทรงจำแทคไม่กลับมาเค้าคิดว่าแบบนี้ดีแล้ว ถ้าแทคจะลืมนิชคุณไปและเริ่มชีวิตใหม่

             “แทค...ชานไปห้องน้ำแปปนึงนะ” ชานชองสะกิดมือน้องชายเบาๆ

             “อ๊ะ...มือนายเย็นจัง...หนาวเหรอ??” ชานชองทักด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

            “อืม” น้องชายตัวใหญ่พยักหน้าหงึกๆ
 
            “ถุงร้อนของนายเย็นหมดแล้วนี่ คราวหน้าแทคต้องบอกชานนะ" ชานชองล้วงมือเช็คถุงร้อนในกระเป๋าเสื้อน้องชาย ก่อนจะกระชับมือน้องชายยกขึ้นมาแนบปากตัวเอง เค้าเป่าลมร้อนๆใส่มือน้องชาย

               “แปปนะ” ชานชองล้วงหาถุงร้อนในกระเป๋าออกมา เค้ายัดถุงร้อนใส่กระเป๋าเสื้อน้องชายหลายอัน

            “ รอชานตรงนี้นะ..เดี่ยวชานมา” หมีชานสองจิตสองใจจะทิ้งแทคไว้คนเดียว เค้าหวังว่านิชคุณจะไม่เสนอหน้าเข้ามาตอนเค้าไม่อยู่

            “แทค” นิชคุณได้โอกาสที่แฟนหนุ่มของเลขาตัวโต ปลีกตัวออกไปเค้ารีบเข้าไปหาแทคยอนทันที 
            “ครับ” แทคยอนพึมพำ มองคนตรงหน้าอย่างสับสน น้ำตาใสๆเอ่อล้นดวงตาเรียวยาว 
            “ทำไมนายถึงทิ้งฉัน” นิชคุณถามซึ่งๆหน้า ดวงตากลมโตขึ้นสีแดงระเรื่อ


            “ทิ้ง” แทคยอนเอียงคอมองชายตรงหน้า เค้าพูดภาษาเกาหลีทวนคำของคนที่เข้ามาทัก


            “อยู่ดีๆนายลาออกจากบริษัททำไม??”  นิชคุณรู้สึกแปลกๆ แทคยอนไม่พูดภาษาเกาหลีเลย เค้าพูดแต่ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว และยังทำท่าทางเหมือนฟังภาษาเกาหลีไม่ออกด้วย

            “บริษัท” แทคยอนทวนคำศัพท์เกาหลีที่พอจะจับคำได้

            “นายเป็นอะไร....นายกำลังกวนโมโหฉันอยู่เหรอ!!” นิชคุณแยกเขี้ยวใส่ชายตรงหน้าเค้า

            “คุณเป็นใคร ช่วยพูดภาษาอังกฤษได้ไหม  ผมไม่เข้าใจ” คนผิวสีตอบกลับสีหน้ากังวลใจ

             “นาย!!” นิชคุณกัดฟัน เค้ารู้สึกเหมือนถูกตีแสกหน้าเมื่อเจ้าสัตว์เลี้ยงของเค้าทำตัวราวกับว่า พวกเค้าไม่รู้จักกัน

             “กลับไปกับฉัน...” มือขาวคว้าหมับที่ข้อมือชายตรงหน้า

            “เดี๋ยว...คุณเป็นใคร..คุณจะพาผมไปไหน..ผมรอชานอยู่” แทคยอนพยายามดึงมือตัวเองกลับ จนคนรอบตัวหันมองเป็นตาเดียวกัน
 

            “ทำไม...หมอนั่นสำคัญกว่าฉันใช่ไหม...นายมีแฟนแล้วเลยทิ้งเพื่อนยังงั้นสินะ” นิชคุณหันมาตวาดใส่แทคยอนเสียงดังเป็นภาษาอังกฤษจนทำให้คนตัวใหญ่สะดุ้งโหยง
 

            “ดี ถ้ามันสำคัญขนาดนั้นก็ดี...งั้นหลังจากนี้...นายไม่ใช่ลูกน้องและเพื่อนฉันอีกแล้ว..จำใส่หัวไว้นะอ๊คแทคยอน” คนผิวขาวสะบัดมือเพื่อนตัวโตทิ้งอย่างไร้เยื่อใย และกล่าวคำอำลาดุเดือดตอกหน้าเจ้าของมือหนา
 

            นิชคุณนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เค้าไม่คิดว่าแทคจะเล่นกับเค้าแรงขนาดนี้  อยู่ๆลาออกจากบริษัทและหายตัวไป แต่พอกลับมาเจอกันหลังจากที่หายตัวไป2เดือน กลับมาทำเป็นพ่นภาษาบ้านเกิดใส่แล้วยังทำเป็นไม่รู้จักเค้า นิชคุณนึกอย่างแค้นเคือง ถ้านายจำไม่ได้ นายมาที่ๆเรานัดพบกันทำไม แค่จีไม่มาก็เสียใจจะแย่แล้ว ยิ่งมาเจอเจ้าแมวตัวเคื่องของเค้าตัดพ้อแบบนี้ด้วยแล้ว

             “ห้องน้ำที่นี่สะอาดมากเลยน้า...แทคอยากเข้าห้องน้ำก่อนกลับไหม” ชานชองเดินสวนกับนิชคุณแต่เค้าไม่ทันได้สังเกตุ

             “เค้ามีตัวตนจริงๆ....แต่ไม่มีอะไรสักอย่างที่เป็นเหมือนในฝัน” น้องชายตัวใหญ่พุ่งตัวเข้าซบไหล่พี่ชายแน่น

            “อะไร..เกิดอะไรขึ้น!!...หรือว่า”  ชานชองขมวดคิ้วจนเป็นปม

             บรรยากาศในที่ทำงานวันนี้มืดมัวตั้งแต่เช้า หลังจากนิชคุณได้มีโอกาสปลีกวิเวกปใช้ชีวิตคนเดียวในวันเกิดตัวเอง เค้ากลับมาในสภาพที่แย่กว่าวันก่อนๆ หมอจุนโฮพูดอะไรด้วยก็ไม่ตอบ บอสใหญ่เอาแต่ทำหน้ามุ่ยเป็นตูดหมา หมอโฮก็ไม่ค่อยอยากไปขัดแข้งขัดขานิชคุณ เค้าเลยปล่อยเลยตามเลย

             “พี่หาเลขาใหม่ให้นายได้แล้วนะ เค้าจะมาเริ่มงานพรุ่งนี้...ดูแลดีๆล่ะ อย่าทำให้หนีไปแบบคนก่อนล่ะ” พี่แก่พูดพร้อมบีบไหล่เจ้านายเบาๆ ระยะเวลา2เดือน นิชคุณเปลี่ยนเลขามามากกว่า5คนแล้ว

            “ก็เลือกที่ทำงานเป็นมาหน่อยสิ” นิชคุณแยกเขี้ยวใส่รุ่นพี่  ปู่แดกูเดินกลับมาที่นั่งตัวเองพร้อมเปิดอีเมลล์ใหม่ขึ้นมาดู

            “นี่มันเรื่องอะไรกันอ่ะ” มินจุนมองหน้าโจควอนอย่างสับสน

            “บ้าแล้วพี่...เป็นไปไม่ได้หรอก....ไอ้แทคเนี่ยนะจะแต่งงาน โอ้ยแล้วดูชื่อฝ่ายหญิงสิ...เรื่องตลกแล้ว” โจควอนพูดเสียงดัง

            “นายได้การ์ดรึเปล่า...เปิดเมลล์นายหน่อยสิ” ปู่แดกูรีบคว้าแป้นคีย์บอร์ดตรงหน้าโจควอนไปทันที

            “นายก็ได้นี่...นายคิดว่า...ไอ้คุณมันจะได้การ์ดเชิญด้วยไหม” ปู่พูดด้วยน้ำเสียงหวั่นวิตก

บอสใหญ่เห็นข้อความใหม่เข้ามาในกล่องข้อความ เค้ารีบเช็คข้อความทันทีเพราะคิดว่าเป็นไฟล์งานที่ลูกค้าจะส่งให้เมื่อวาน แต่ที่เค้าสงสัยคือ เค้าไม่รู้จักเจ้าของเมลล์นี้

“....” นิชคุณหัวใจกระตุกวูบเมื่ออ่านข้อความที่แปะอยู่ในอีเมลล์ การ์ดแต่งงานของเลขาคนสนิทและว่าที่ภรรยาคนเก่าโชว์หราบนหน้าจอคอม

“ผมจะกลับล่ะ” นิชคุณปิดคอม และตั้งใจจะกลับบ้าน

“กลับไปไหนล่ะ...งานเสร็จแล้วเหรอ??” ลีจุนโฮถาม พร้อมลุกตามอย่างว่องไว

“ไม่เสร็จแต่ผมจะกลับ...ไม่ต้องตามผมมานะ” ใบหน้าสีขวาขึ้นสีแดงพอๆกับดวงตา บ่งบอกว่าอารมณ์ของนิชคุณไม่ปกติแน่

นิชคุณเดินออกจากห้องทำงานมาเจอรุ่นพี่โจควอนและรุ่นพี่มินจุนยืนขวางทางอยู่

“หลบ!!” นิชคุณส่งสายตากร้าวใส่รุ่นพี่ทั้ง2คน

“คุณนี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่!!” โจควอนรีบพูดดักทาง

“ใช่เข้าใจผิด..สิ่งที่ฉันกลัว สิ่งที่ฉันปฏิเสธมันเป็นเรื่องจริง...ทั้งที่ฉันพยายามมองโลกในแง่ดีแล้ว...นายแย่งเธอไปจากฉันแล้วทำไมนายนอกใจเธอ...นายทำแบบนี้ทำไม..ทำลายความรักของฉันกับจีทำไม” คนผิวขาวผลักอกรุ่นพี่โจควอนจนชายร่างเล็กกระเด็นลงไปนั่งกับพื้น

" ผมอยากอยู่คนเดียว...ขอร้อง!!" บอสใหญ่กล่าวเสียงสั่น
 
             นิชคุณเดินเหม่อลอยกลับไปบ้านของตน เค้ากดล็อกประตูห้องนอนตัวเองเพียงแผ่วเบา เพื่อจะไม่ให้ใครอีกคนล่วงล้ำอาณาเขตณเวลานี้ นิ้วมือเรียวยาวแตะลงบนแผ่นทัชสกีนหน้าจอมือถือเพียงครั้งเดียว แสงสว่างวาบก็ปรากฏขึ้น รูปใครบางคนโชว์หราอยู่บนหน้าจอมือถือสีขาวของเค้า  เค้านั่งนิ่งชั่วครู่ สายตาจับจ้องเพ่งพินิจรูปภาพที่แนบมากับการ์ดแต่งงาน ปลายนิ้วเรียวแตะหน้าจอมือถือสไลด์ไปด้านข้างเรื่อยๆ สาวน้อยอดีตคนรักที่เค้ารักสุดหัวใจกับเพื่อนซี้ที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ทั้งคู่ย้ายกันไปสร้างรังรักสวีทหวาดแหว๋วกันที่บอสตัน แล้วยังมีสัญญาลักษณ์แสดงความรักอีกชิ้น  ลูกของผู้หญิงที่ทรยศเค้ากับเพื่อนที่หักหลังเค้า
“....ที่รั้งคุณไว้เพราะแบบนี้สินะ....เพราะเด็กที่อยู่ในท้องนั่น เป็นลูกนายสินะ” หยดน้ำตาใสๆไหลกลิ้งลงมาจากขอบตากลมโตของเจ้าของมือถือ
นิชคุณโทรจองตั๋วเครื่องบินไปบอสตันทันที เค้าอยากเห็นมันด้วยตาตัวเอง ความเจ็บปวดที่กัดกินหัวใวเค้าแรมเดือน ความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไรเธอถึงได้เลือกคนอื่นมากกว่าตัวเค้า  แทคยอนมีอะไรดีกว่าเค้าตรงไหนกัน ถ้าได้เห็นนายอยู่กับเธอตรงหน้า และเธอดูมีความสุขมากกว่าอยู่กับฉัน บางทีฉันอาจทำใจได้ คนผิวขาวปลอบใจตัวเอง
“พี่ควอนฝากบอกพี่แพนด้าด้วย คุณจะหยุดพักอีก1อาทิตย์...ธุระน่ะครับ” ชายผิวขาวพูดจบก็รีบตัดสายทิ้งทันที เค้ารู้ว่าโจควอนจะบ่น และอาจจะถึงขั้นเทศนาเค้า ส่วนหมอโฮเค้าแปะกระดาษไว้หน้าตู้เย็นแล้ว นิชคุณนั่งรถมาสนามบินและขึ้นเครื่องในไฟส์ที่ด่วนที่สุด 
             ช่วงเวลายาวนาน แต่เหมือนแค่อึดใจเดียวเค้าก็ลงมาเหยียบพื้นถนนเมืองอารยธรรม นิชคุณหาเช่ารถบ้าน1คัน เพื่อมาสอดแนบที่อยู่ตามที่ได้รับมา เค้าสืบคร่าวๆรู้แค่ว่า แทคยอนย้ายมาอยู่กับควาน ชานชอง  หนุ่มใหญ่คนนี้เป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องมือแพทย์ เป็นทายาทคนโตของนักธุรกิจร่ำรวยคนนึงในอเมริกา เค้าครองตัวโสดยาวนาน ไม่เคยมีสาวคนไหนตกเป็นข่าวร่วมกับเค้า
“แทค!!......นายตื่นสาย3วันติดแบบนี้ไม่ไหวแล้วนะ “ ชานชองตะโกนเรียกชื่อน้องชายดังลั่นบ้าน  ดังมากพอที่จะทำให้ชายที่สอดแนมอยู่ด้านนอกได้ยิน
“รีบแล้ว....ก็เมื่อคืนชานเล่นแทคซะหนักเลยนี่” เสียงอดีตเพื่อนซี้ลอยออกมาจากในตัวบ้าน ในขณะที่ชานชองยืนให้อาหารปลาอยู่หน้าบ้าน และคนขับรถสตาร์รถรอแทคยอนคนเดียว
“คืนนี้....ไม่ทำก็ได้...แต่คืนต่อไปนายก็ต้องทำอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”ชานชองตะโกนตอบแทคยอนพร้อมทำหน้าซีเรียส
“มาแล้วๆๆ....ชานโกรธแทคเหรอ” อดีตเพื่อนซี้ของเค้าจ้ำอ้าวออกมาจากบ้าน เคาดูเปลี่ยนไปมาก ผิวขาวสว่างขึ้น ผอมลง แต่รอยยิ้ม และรอยยับบนใบหน้ายังคงเท่าเดิม
            นิชคุณเห็นแทคยอนทำปากหยู่เมื่อชานชองตวัดสายตาคมกริบใส่แทค และอยู่ๆเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวเก่าของเค้าก็กางแขนกอดรอบเอวคนที่มีศักดิ์เป็นเจ้านายคนใหม่ของมันและประทับริมฝีปากบางหยักลงบนแก้มของผู้ชายชื่อชานชอง
“หายโกรธรึยังครับพี่ชาย” แทคยอนทำเสียงออดอ้อนใส่ชานชอง
“รีบไปกันเถอะ...เดี๋ยวไม่ทันนะ” ชานชองกอดแทคกลับเบาๆ ก่อนจะใช้ฝ่ามือใหญ่ๆขยี้หัวน้องชายเค้า
             นิชคุณรีบขับรถตามรถของชานชองไปห่าง ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไปออกเดทกัน ชานชองพาแทคไปดูหนังรอบเช้าตามลักษณะนิสัยของแทค แทคเอนหัวซบบ่าผู้ชายคนข้างๆ และผู้ชายที่ที่หลักให้แทคยอนซบก็หยิบข้าวโพดคั่วส่งเข้าปากเพื่อนของเค้า  ดูเหมือนแทคจะหลับตอนปลายๆเรื่อง นิชคุณได้เห็นฉากโรแมนติกหลายฉากจนเค้ารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  ผู้ชายข้างกายอดีตเพื่อนซี้เค้า รวบมือเรียวยาวสีเข้มมาจับไว้บนหน้าขาตัวเอง และยังจับตัวแทคยอนให้นอนซบแผ่นอกหนาของเค้า ให้แทคนอนได้สบายขึ้น
 
                        นิชคุณรู้สึกแปลกๆในใจ มันเป็นความรู้สึกไม่ชอบที่มีคนมาใกล้ชิดเพื่อนของเค้า เมื่อหนังฉายจบ ชานชองก็พาแทคไปกินข้าว ซึ่งก็เป็นอาหารโปรดของแทค เรียกได้ว่าผู้ชายคนนี้รู้ใจแทคยอนราวกับไม่ได้เพิ่งเจอกันไม่นาน เพราะปกติเจ้าแมวของเค้าค่อนข้างเข้ากับคนอื่นยาก และไม่ชอบพูดเรื่องของตัวเองเท่าไหร่ ไม่ค่อยบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะแบบนี้รึเปล่าแทคถึงหลงคารมณ์ชานชอง ผู้ชายตัวใหญ่ หล่อ รวย ภายนอกนิ่งๆ แต่เมื่อเห็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ทำให้รู้ว่า ชานชองออกแนวคาสโนวารู้ว่าคนข้างกายชอบและต้องการอะไร
            เมื่อทั้ง2ทานข้าวเสร็จ ชานชองก็พาแทคไปว่ายน้ำ ซึ่งคนที่ลงสระมีเพียงแทคคนเดียว ส่วนชานชองนั่งอยู่ข้างสระน้ำและจ้องแทตสลับกับนาฬิกาจับเวลา
“หึมันน่าถีบตกน้ำซะจริง” นิชคุณบ่นพึมพำ ขณะที่เค้าเองก็ไปหาที่นั่งหลบมุมอยู่ไม่ไกลนัก 
“แทค!!...ขึ้นจากน้ำได้แล้ว....พอแล้ว” ผู้ชายร่างใหญ่ที่นั่งจับเวลาอยู่ข้างสระตะโกนเรียกชายในน้ำขึ้นจากสระว่ายน้ำ
“หื้ม!!ขึ้นแล้วเหรอ!!...ไม่ถึง20นาทีเลยนะ” นิชคุณเบ้ปาก ขมวดคิ้ว นายพลาดเรื่องนี้ไปนะ....แทคน่ะเวลาลงน้ำหมอนั่นไม่ขึ้นง่ายๆหรอกนะ..หึหึ นิชคุณนึกในใจและหัวเราะกระหยิ่มยิ้มหย่อง เค้าลืมเป้าหมายในการมาบอสตันเสียแล้ว
ชานซองพาแทคไปกินข้าวในโรงแรมหรู สั่งอาหารที่แทคชอบ แต่รายการอาหารมันน้อยเหลือเกิน ซึ่งผิดวิสัยคนกินเยอะแบบแทค
“ชาน...กลับเถอะ...แทคง่วง” แทคยอนกวาดสายตาไปทั่วร้านอาหาร เค้ารู้สึกเหมือนถูกจับจ้อง เป็นความรู้สึกคุ้นเคย และน่าหวาดหวั่น หัวใจแทคยอนเต้นเร็วขึ้นราวกับมันกลัวอะไรบางอย่าง
“กินอีก2-3คำสิ ชานป้อนให้ม่ะ” ชานชอนป้อนข้าวแทคยอนช้าๆทีละช้อน ก่อนจะเช็คบิลและพยุงร่างน้องชายขึ้นรถลีมูซีนสีขาวเพื่อกลับบ้าน
“ออดอ้อนเหลือเกินนะแทค....ได้ทีเอาใหญ่เลย” นิชคุณไม่สบอารมณ์ที่อดีตเพื่อนรักเค้ายอมให้คนอื่นเข้าใกล้ขนาดนี้ เป็นอีกครั้งที่ได้เห็นชานชองป้อนข้าวแทคยอน และเพื่อนเค้าก็ยินยอน
วันที่2ในการเฝ้าสังเกตการณ์ แทคยอนไม่ได้ไปทำงาน มีเพียงควานชานชองคนเดียวที่ไปทำงาน ในขณะที่คนขับรถก็หยุดงานด้วย นิชคุณเฝ้าอยู่ระแวกบ้านชานชอง เค้าใช้กล้องส่องทางไกล เฝ้ามองแบบไม่คาดสายตา เค้าไม่เจอซูจีเลย ในช่วงบ่ายๆเย็นๆอยู่ๆแทคยอนก็เดินออกมาจากตัวบ้านมาที่ลานสนามข้างบ้านซึ่งดันตรงกับตำแหน่งรถที่นิชคุณจอดอยู่ นิชคุณเลยได้เห็นแทคยอนในระยะเผาขน เจ้าแมวยักษ์ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงวอรม์สีน้ำเงินเข้ม และรองเท้าลำลอง ในวันที่อากาศร้อนพอประมาณ เจ้าแมวยักษ์เดินมาหยุดที่ชิงช้าเชือกที่ผูกไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ถ้าเทียบกับขนาดตัวของแทคกับขนาดกิ่งไม้ นิชคุณคิดว่า เจ้ากิ่งไม้นี้คงหักลงมาแน่ๆ แต่ก็แปลกที่เมื่อคนผิวเข้มหย่อนตัวลงนั่งบนชิงช้า กิ่งไม้กับสะเทือนเพียงเล็กน้อย
ใบหน้าเจ้าแมวยักษ์ดูซีดเซียว และเศร้าหมองไม่สดใสเหมือนวันเก่าๆ  ตลอดเวลาที่รู้จักกันมานิชคุณไม่เคยเห็นเจ้าแมวดูป่วยขนาดนี้เลย
“เพราะสาเหตุอะไรกันที่ทำให้นายต้องคบกับเค้าในระหว่างที่ตัวนายเองกำลังจะแต่งงาน” นิชคุณเปรยออกมาคนเดียว
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เสียงออดดังขึ้นหน้าบ้าน นิชคุณสะดุ้งหันตามเสียง ในที่สุดเค้าก็พบผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุให้เค้ามาที่นี่ ซูจีคนสวยอดีตคู่หมั้นเค้ารถมาจากรถลีมูซีนสีดำ ตามด้วยผู้ชายอีกคน และเหมือนจะมีใครอีกคนตามลงมาด้วย สงสัยว่าวันนี้จะมีเลี้ยงฉลองอะไรสักอย่าง เพราะคนพวกนั้นแบกอาหารชุดใหญ่เข้าไปในตัวบ้าน  เจ้าแมวยักษ์ยังคงนั่งเหม่อมาทางตำแหน่งรถเค้า แต่นิชคุณคิดว่าแทคไม่เห็นเค้าแน่
“แทค....ดีขึ้นไหม...ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ” ซูจีเอ่ยถามชายบนชิงช้า เมื่อเธอเดินเข้ามา เธอย่อตัวลงคุกเข่าตรงหน้าแทคยอน  
“แทคจะรอชาน...ชานยังไม่กลับ” แทคยอนหันหน้าหนีซูจี  ซึ่งทำให้นิชคุณงง พวกนายทะเลาะกันเหรอ...
“แทคไม่หิวเหรอ...อาชางบอกว่าแทคไม่ได้กินข้าวกลางวันด้วยนี่” ซูจีพยายามเกลี่ยกล่อมเพื่อนสมัยเด็กของตน และเพราะปัญหาของเธอ มันทำให้แทคกับนิชคุณผิดใจกัน
“ไม่!!....” แทคยอนตีมือซุจีอย่างแรง เมื่อซูจีพยายามจะจับมือแทคเพื่อจะพาเข้าบ้าน
“แทค!!...ไอ้เวรเอ้ย...แก” นิชคุณสบถเลือดขึ้นหน้าเมื่อเห็นสิ่งที่แทคทำกับอดีตคนรักเค้า
“จีขอโทษ...อย่าโกรธจีนะ” ซูจีลงไปนั่งกับพื้น เธอประสานมือเธอไว้ด้วยกัน ดูเหมือนว่าเธอจะเจ็บ
“เกิดอะไรขึ้น!!...แทคอย่าทำแบบนี้อีกนะ” คนขับรถวิ่งออกมา เค้าเข้ารั้งตัวแทคยอนให้ออกห่างจากซูจี
“ไม่ค่ะอา...แทคไม่ผิด...จีผิดเอง” ซูจีค่อยๆลุกขึ้น เธอขอโทษขอโพยทั้งแทคและคนขับรถ
“แทค..เข้าข้างในเถอะ...นายนั่งรอตรงนี้ชานก็ยังไม่กลับหรอก” ชางมินรวบเอวหลานชายและพาเข้าบ้าน
 นิชคุณมองความสัมพันธ์ของคนในบ้านนี้อย่างไม่เข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของซูจีไม่ค่อยดีเท่าไหร่
 “คุณควรพาจีออกมาจากบ้านแทคไหม...จีอยากมาอยู่กับคุณไหม” นิชคุณได้แต่ตั้งคำถามในใจซ้ำไปซ้ำมา คำถามที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะได้ถาม
ตกเย็น ควาน ชานชองก็กลับมา ไม่นานนักบรรดาแขกก็ทยอยกลับ แทคยอนไม่ได้ออกมาส่งใครเลย มีเพียงคนขับรถ และชานชองเท่านั้นที่ออกมาส่งพวกซูจี ดูเหมือนว่าจะมีคนทำแผลให้ซูจีแล้ว นิชคุณสงสัยว่าทำไม ซูจีต้องกอดผู้ชายที่เป็นชู้ของสามีตัวเองขนาดนั้น
“จีขอโทษนะคะพี่ชาน...จีไม่ได้ตั้งใจทำแทคตกใจ” ซูจีน้ำตาซึม นิชคุณเห็นหยดน้ำตาที่เกาะที่ขอบตากลมโตได้ชัด
“สักวัน...ทุกอย่างจะดีขึ้น..พี่ขอโทษด้วยนะที่ปกป้องเธอไม่ได้”ชานลูบหัวซูจี2-3ที ก่อนจะส่งซูจีและชายที่ตามมาด้วยขึ้นรถไป
 
 เช้าวันที่3 เวลา10 โมงเช้า นิชคุณยังคงจอดรถอยู่ที่เดิม เค้ายังคงจดจ้องอยู่ที่เจ้าสัตว์เลี้ยงตัวเก่า ไม่นานนักคนที่เค้าเฝ้ารอก็เดินออกมา ใบหน้าเจ้าแมวยังคงซีดเซียวราวกับซากศพเดินได้ แทคยอนย่างเท้าเข้ามาใกล้รถนิชคุณที่จอดอยู่ ใกล้ยิ่งกว่าเมื่อวาน จนทำให้ชายตัวขาวตกใจ “นายรู้เหรอ” นิชคุณรีบซ่อนตัว
“แทค...มานอนนี่มา” ควาน ชานชองเลื่อนเก้าอี้ไฟฟ้าตัวยาวออกมาที่ชานบ้าน พร้อมกับเดินมารั้งตัวแทคยอนเข้ามาแนบอก
“อย่าเดินไปไกล...จนห่างจากสายตาพี่แบบนี้...” ชานชองพยุงร่างน้องชายที่ดื้อรั้นอยู่ชั่วครู่ให้กลับมานอนที่เก้าอี้ที่เตรียมไว้ให้
 นิชคุณหงุดหงิดที่เหมือนถูกแย่งของสำคัญไป แต่อีกใจเค้าก็โล่งอกที่แทคไม่ทันได้เห็นเค้า
“กินขนมสักหน่อยนะ...อย่าดื้อ...นายผอมเกินไปแล้ว” ชานชองยกถาดอาหารออกมา เตรียมป้อนให้น้องชาย
“ไม่ชาน...แทคไม่กิน” แทคยอนปฎิเสธ เค้าส่ายหัวไปมา2-3ครั้งก่อนจะทิ้งตัวลงนอนเพราะหมดแรง
“แทค!!...ได้โปรด...นายทำแบบนี้มีแต่ทำให้คนรอบข้างทุกข์ใจนะ” ชานชองวางชามข้าวลง เค้ารวบตัวแทคยอนเข้ากอดไว้
“แทค..ขอโทษ” แทคยอนสะอื้น น้ำตาหลายหยดไหลลงมาตามโหนกแก้ม เป็นอีกครั้งที่นิชคุณได้เห็นน้ำตาสัตว์เลี้ยงตัวเก่าของเค้า
            “อยู่แล้วไม่มีความสุข..แล้วอยู่แบบนี้ทำไมแทค...กลับมาสิ” นิชคุณสะดุ้งตกใจในความคิดตัวเอง เค้าส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดชั่วแล่นออกไป เป็นเพราะเค้าเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสารแน่ๆ
ชานชองป้อนขนมแทคยอนจนหมดชาม เค้าเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเก็บถาดอาหาร เพียงไม่นาน ท่าทางแทคยอนก็ดูแปลกๆ เค้ายกมือขึ้นปิดปาก หันซ้ายแลขวา ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ล้มลงบนบันไดหน้าบ้าน เจ้าแมวยักษ์ตะเกียจตะกายจนตัวเองเข้าใกล้ท่อระบายน้ำข้างตัวบ้าน   
“อ้วก อ๊อก อ่อก” เจ้าแมวน้อยตัวเก่าของเค้า อ้วกเอาอาหารที่เพิ่งกินไปออกมาหมด แถมด้วยลิ่มเลือดสดๆตามออกมาด้วย แทคยอน หมอบตัวลง เค้ากอดตัวเองราวกับคนเป็นป่วยใกล้ตาย
“ชาน..ชะ...ชาน..แทคหนาว” เสียงเรียกเบาหวิวหลุดออกจากปากแทคยอน
นิชคุณก้าวออกจากรถ เค้ายืนตัดสินใจชั่วครู่ “ฉันควรเข้าไปช่วยนายไหมแทค” ชายผิวขาวพูดกับตัวเองก่อนจะปีนรั้วเข้าไปด้านในตัวบ้านที่เค้าสอดแนมอยู่
 “คุณ...รึเปล่า” ก่อนสติจะดับวูบลง แทคยอนคิดว่าเค้าเห็นเพื่อนรักของเค้า ยืนมองดูเค้าใกล้ๆ
“ควาน ชานชอง!!...ไอ้บ้าเอ้ย..ไอ้หมีหน้ามึน...ออกมาข้างนอกเดี๋ยวนี้” นิชคุณตะโกนลั่นเมื่อเค้าเห็นแมวน้อยของเค้าแน่นิ่งไป นิชคุณร้อนรน ใจนึงเค้าอยากจะช่วย แต่ถ้าเค้าทำมากกว่านี้ ทุกอย่างที่เค้าทำมาจะจบ
ชานชองได้ยินเสียงโหวกเหวกหน้าบ้าน เค้าชะเง้อหน้าออกมาหน้าบ้าน ไม่เห็นน้องชาย หัวใจเค้ากระตุกวูบ “แทค!!” ชานชองกวาดสายตาไปจนเจอน้องชายเค้า ฟุบตัวอยู่กับพื้นโดยมีเสื้อกันหนาวของใครบางคนคลุมทับไว้ ชานรีบอุ้มแทคเข้าบ้านทันที เวลานี้ไม่มีเวลามาสนใจว่า ใครเป็นคนเรียกหรือเอาเสื้อมาคลุมให้น้องชายของเค้า
นิชคุณเลื่อนรถออกมา เค้ามองดูชานและแทคอยู่ห่างๆ อย่างน้อยเค้าก็รู้ว่า ชานก็ดูแลแทคได้ดีถึงจะไม่ได้ดีที่สุด แต่เค้าแปลกใจที่ทำไมไม่พาแทคไปโรงบาลทั้งที่อาการดูแย่ขนาดนั้น  นิชคุณพยายามหาทำให้เค้ารู้ว่า ชานชองทุ่มเม็ดเงินมหาศาลกับชู้รักขนาดไหน คนผิวขาวตัดสินใจกลับเกาหลีทันที เค้ารู้ว่าความสัมพันธ์แทคกับจีมีบางอย่างที่ผิดปกติ แต่เธอก็อยู่ดีกินดี และเจ้าแมวน้อยของเค้าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเช่นกัน



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น