วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561
ข้อตกลทค งรัก12(ร่าง)
อย่าพึ่งอ่านนะคะ ตอนนี้บทนี้ยังเป็นโครงร่างคราวๆอยู่ ยังไม่ลงรายละเอียด อาจจะมีปรับเสริมเพิ่มเติมอีกเยอะ
ในเช้าของวันนี้อากาศเริ่มเย็นสบายขึ้น ไม่ได้เย็นยะเยือกเช่นเมื่อคืน นิชคุณส่งเสื้อแขนยาวให้แฟนฟนุ่มติดกระเป๋าไปมหาลัยด้วย แทคยอนยอมความง่ายได้ไม่อยากขัดใจเเฟนหนุ่มร่างขาว และมันก็อาจจะเป็นสิ่งดีๆที่ควรจะทำของคู่รักที่ต้องห่วงสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน
ในเช้าของวันนี้อากาศเริ่มเย็นสบายขึ้น ไม่ได้เย็นยะเยือกเช่นเมื่อคืน นิชคุณส่งเสื้อแขนยาวให้แฟนฟนุ่มติดกระเป๋าไปมหาลัยด้วย แทคยอนยอมความง่ายได้ไม่อยากขัดใจเเฟนหนุ่มร่างขาว และมันก็อาจจะเป็นสิ่งดีๆที่ควรจะทำของคู่รักที่ต้องห่วงสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน
คุณ @แทคกลางวันกินข้าวยาง
จุนโฮ ยาง
มินจุน หิวมาก
แทค ยัง
คุณ กินผัดไทยไหม
มินจุน กิน
ชาน กิน
แทค บ่ายนี้ไม่กลับบ้าน ไม่ต้องทำเผื่อ
คุณ ไปไหนอ่า
แทค ไปห้องสมุด
คุณ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาไปให้
จุนโฮ โหว สุดยอด
แทค ไม่ต้องหรอก เลิกเรียนจะรีบไป
จุนโฮ แทคฮยองอย่าทำงี้สิ คุณฮยองอุตส่าห์ตั้งใจน้า
แทค @วันนี้ไม่สะดวกจริงๆ
คุณ แปปเดียวก็ไม่ได้เลยเหรอ งานด่วนหรา
แทค เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง
คุณ ยืมกลับมาสิ
แทค หนัก
คุณ เดี๋ยวช่วยแบก
จุนโฮ ช่ายเดี๋ยวช่วย
แทค จะไปทำธุระก่อน แล้วจะไปห้องสมุด
จุนโฮ แทคฮยองอย่าทำงี้สิ คุณฮยองอุตส่าห์ตั้งใจน้า
แทค @วันนี้ไม่สะดวกจริงๆ
คุณ แปปเดียวก็ไม่ได้เลยเหรอ งานด่วนหรา
แทค เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง
คุณ ยืมกลับมาสิ
แทค หนัก
คุณ เดี๋ยวช่วยแบก
จุนโฮ ช่ายเดี๋ยวช่วย
แทค จะไปทำธุระก่อน แล้วจะไปห้องสมุด
คุณ ไม่รู้แหละ เที่ยงเจอที่โรงอาหาร
จุนโฮ ตกลงจะได้กินไหม
ชาน @จุนโฮ ชื่อแทคเหรอ
แทค งั้นแปปเดียวนะ
จุนโฮ ถ้าฮยองไม่มามีเจ็บ
มินจุน ถ้าแทคมานายจะอดกิน
จุนโฮ ทำไม
ชาน นั่นสินะทำไมกัน
มินจุน : วันนี้ฮยองไม่กลับบ้านนะ
จุนโฮ : @มินจุน จะไปไหนครับฮยอง
มินจุน : ไปที่ชอบๆ
ชาน : อยากให้จุดธูปด้วยไหมครับ
มินจุน : แรง!!
จุนโฮ : แทคฮยองไปไหนแล้ว อย่าทำเรือล่มนะ
มินจุน : เรืออะไรวะ
มินจุน : วันนี้ฮยองไม่กลับบ้านนะ
จุนโฮ : @มินจุน จะไปไหนครับฮยอง
มินจุน : ไปที่ชอบๆ
ชาน : อยากให้จุดธูปด้วยไหมครับ
มินจุน : แรง!!
จุนโฮ : แทคฮยองไปไหนแล้ว อย่าทำเรือล่มนะ
มินจุน : เรืออะไรวะ
จุนโฮ : หลบไปเรือรักกำลังจะมา
ชาน : นั่นมุขหรือเปลือกหอยแครง
มินจุน : หมอยแดง ทะลึ่งนะเรา
ชาน : หอยแครงครับ
จุนโฮ : หอยอะไรวะ ไม่รู้จัก!!
ชาน : ไปหากูเกิ้ลเอาสิ
จุนโฮ : ขี้เกียจ
ชาน : ก็ขี้เกียจตลอดแหละ
จุนโฮ : พูดให้มันดีๆ
ชาน : ไม่ได้พูด พิมพ์อยู่
มินจุน : พอเลยๆ
จุนโฮ : @คุณ คุณฮยองยังอยู่ไหมครับ ทำข้าวผัดให้ผมด้วยสิ
ชาน : เป็นแฟนเค้ารึไง เค้าถึงต้องทำให้
จุนโฮ : ทำไมหึงเหรอ
ชาน : ไม่หึง พูดไม่ได้เหรอ
จุนโฮ : หึงก็บอก
ชาน : ถ้าพูดงี้ไปแล้วนะ
จุนโฮ : เออฉันก็จะไปแล้วเหมือนกัน
มินจุน : @คุณ @แทค พวกนายยังอยู่ไหม ...
มินจุน : อ่าวนี่ไปกันหมดเลยเหรอ
มินจุน : @อูยอง อยู่ไหม
อูยอง : อยู่
มินจุน : แล้วทำไมไม่คุย
อูยอง : คนมันติสซ์
มินจุน : อืม....
นิชคุณจัดแจงเตรียมทำอาหารไปให้แทคยอน และทำอีกนิดหน่อยไปเผื่อเพื่อนๆ เค้าบรรจงบรรจุอาหารลงปิ่นโตที่ซื้อมาจากประเทศไทยลงไปทีละชั้น นานมากแล้วที่เค้าไม่เคยหยิบมัันออกมาใช้ แต่โชคดีที่เค้าไว้ใจในคุณาพของเครื่องครัวตราหัวม้าลาย เครื่องครัวที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ชายหนุ่มผิวขาวจัดเถาปิ่นโตลงในถุงช็อปปิ้งมอล์ เเละเคลื่อนย้ายไปไว้ในรถคาดิลแลคสีแดงคันงาม สาเหตุที่เค้าต้องเอาปิ่นโตบรรจุในถุงก็เพราะว่าเค้ากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆทำให้รถของเค้าเปื้อน
ณ มหาลัยในช่วงกลางวันแดดแรงเปรี้ยงปร้างผิดกับอากาศเย็นสบายในตอนเช้าราวฟ้ากับเหว ช่วงกลางวันที่เป็นมื้อพักกินข้าวมีเด็กนั่งกระจัดกระจายกันไปตามจุดต่างๆทั้งสนามหญ้า ม้านั่งใต้ต้นไม้ พื้นทางเดิน เรื่อยไปจนถึงห้องอาหาร ที่จัดอย่างเป็นสัดส่วนสวยงาม กลุ่มนักศึกษาต่างก็รวมตัวกันไปตามความชอบของตัวเอง
เฟยนักศึกษาสาวปี3 นั่งก้มหน้างุดอยู่กับกองหนังสือเหมือนเช่นเดิมทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปหน่อยตรงที่เธอตื่นเต้นกว่าปกติเอามากๆ ในขณะที่เพื่อนๆร่วมกลุ่มต่างก็สนใจกับกิจกรรมของตัวเอง ไม่มีใครรับรู้ความผิดปกติของเพื่อนของเธอเลย
ด้านเด็กๆร่วมบ้านก็จับจองที่นั่งไม่ห่างจากที่เดิมมากนัก ต้นเหตุเพราะมีนักสึกษากลุ่มอื่นมาใช้สถานที่ประจำของพวกเค้าเสียแล้ว มินจุนซึ่งมาก่อนใครเพื่อน โยนกระเป๋าเป้ของตนลงบนโต๊ะอาหารที่ว่างอยู่ หยิบโทรศัพท์ออกมาไลน์ไปบอกน้องๆในกลุ่มว่าเค้าได้ที่นั่งตรงไหน จางอูยองเป็นคนที่2ที่มาถึง พี่มินจุนพพยับพเยิบส่งสัญญาณให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องมานั่งข้างเค้า ซึ่งจางอูยองก็ตามน้ำไป
จุนโฮมาถึงจุดนัดหมายคนที่3 หลังจากเค้าต้องตามเอารายงานของตัวเองที่ส่งไม่ทันในห้องเรียนไปส่งที่โต๊ะอจ.ด้วยตัวเองก่อน จุนโฮเป็นนักเรียนดีเด่นในสายการเรียนของเค้า ถึงเค้าจะดูเป็นคนง่ายๆ แต่ตัวจริงนั้นแตกต่างกันเยอะในเรื่องการเรียนและการทำงาน เค้าเป็นคนเจ้าระเบียบที่ละเอียดมาก ต้องวางแผนและตรวจสอบงานที่ตัวเองทำก่อนส่งเสมอ ส่วนมักเน่นั้นตอนนี้เค้ากำลังสนใจอย่างอื่นนอกจากการเรียนในคณะอักษรศาสตร์ นั่นก็คือการแสดงละครเวที ช่วงหลังๆนี้เค้ามักจะไปนั่งดูเพื่อนๆที่เรียนการแสดง และกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่เข้ามาขอยืมโรงละครใช้ กระทั่งการแสดงทีสิตจบของรุ่นพี่ที่กำลังจะจบ ราวกับว่าเค้าจะหันเหเป้าหมายอย่างไงอย่างงั้น เพราะแบบนี้เองเจ้าตัวถึงได้มาที่หลังคนอื่นเสมอ
แทคยอน2จิต2ใจกับการตัดสินใจว่าจะไปทำอะไรก่อน สุดท้ายเค้าก็เลือกที่จะไปทำธุระของตัวเองที่ตึกของภารโรง เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นเค้าทำของสำคัญบางอย่างหายไประหว่างที่เข้าเรียนที่ตึกA เค้าไม่รู้ว่า ของชิ้นนั้นหายไปตอนไหน ถึงแม้เค้าจะรีบกลับไปหาทันทีที่นึกได้ แต่เค้าก็ยังหามันไม่เจอ เค้าหวังว่าจะมีเจ้าพนักงานคนใดคนนึงเก็บของได้ และรอให้นักศึกษากลับไปรับคืน แน่นอนว่าเค้ามั่นใจว่าสิ่งที่เค้าทำหายไปนั้นมีเพียง2ชิ้นในโลก ถ้าบังเอิญไม่มีใครไปปรับเปลี่ยนอะไรมันละก็นะ
ด้านนิชคุณขับรถมาถึงมหาลัย เค้าได้พิกัดนัดหมายจากมินจุนฮยองเป็นที่เรียบร้อย ชานชองอาสาจะไปช่วยคุณฮยองถือปิ่นโตมาที่โรงอาหาร
เฟยรวบรวมความกล้าถือเปเปอร์ช็อตโน๊ตของเธอที่เสียเวลาย่อเป็น2ชุด ย่อให้ต่างไปจากช็อตโน๊ตของเธอเพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดหากได้เห็นมันเข้า เธอหันซ้ายแลขวา จดจ้องสายตาไปที่กลุ่มท็อปมหาลัย ในวันนี้นักศึกษากลุ่มนั้นนั่งอยู่ไกลจากกลุ่มของเธอไปพอสมควร และคนที่เธอต้องการพบตัวยังคงไม่เห็นเงา ถึงแม้เธอจะมีโอกาสได้เจอตัวใกล้ๆในคาสเรียน แต่เธอก็คิดว่ามันคงเป็นจุดเด่นเกินไปหากเธอเข้าไปทักเค้าก่อน และเเน่นอนว่าเพื่อนๆในชั้นเรียนคงแปลกใจเช่นกัน
เมื่อคืนก่อน คุณพ่อของเธอซึ่งเป็นว่าที่สส.ที่กำลังจะลงสมัครคัดเลือกเป็นตัวเเทนเขต ท่านเรียกเธอเข้าพบในยามค่ำคืน คุณแม่ของเธอมีทีท่าตื่นเต้นต่างไปจากทุกที เมื่อเธอเข้าไปพบคุณพ่อในห้องทำงาน คุณพ่อของเธอส่งสมุดปกแข็งสีดำมาให้เธอ ในนั้นมีภาพชายหนุ่มหลายคน และ1ในนั้นมีชายที่เธอรู้จักในคาสเรียนอยู่ด้วย ดูเหมือนว่าพ่อของเธอต้องการให้เธอแต่งงานกับใครสักคนที่อยู่ในสมุดเล่มหนาในมือเธอ คุณแม่ของเธอลุกมายืนข้างเธอ และอ่านคุณสมบัติของชายแต่ละคนอย่างหน้าชื่นตาบาน ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุ22ปี เหตุใดเธอจึงต้องรีบแต่งงานกัน เธอมีความฝันที่จะเรียนให้จบ และออกท่องไปบนโลกอันกว้างใหญ่นี้ ใช้ความรู้ความสามารถ และทำสิ่งที่เธออยากจะทำ นั่นก็คือ หน่วยอาสาช่วยเหลือเด็กถูกทิ้ง เด็กที่ถูกทารุณกรรม ถึงการมีแฟนจะเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงวัยอายุเท่าเธอ แต่การแต่งงานมันห่างกันไปไกล ที่สำคัญหากเธอเลือกแต่งงานกับครอบครัวที่มีอิทธิพลทางการเมือง เธออาจจะต้องจับเจ่าทั้งชีวิตอยู่กับการส่งเสริมสามี หรือคุณพ่อสามีขึ้นแท่นการปกครอง เธอไตร่ตรองระหว่างถือสมุดปกแข็งในมือ ที่น่าแปลกใจเหนือสิ่งอื่นใดคือ ชายคนที่เธอรู้จักก็เป็นหนึ่งในลูกชายของกลุ่มผู้มีอิทธิพลด้วย แน่นอนว่าเธอต้องเลือกชายคนใดคนนึงในสมุดเล่มนี้อย่างเสียไม่ได้ แต่เธอก็ขอเวลา เธอต้องไตร่ตรองให้รอบครอบ เพราะเส้นทางการเมืองมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่บอบบางในสายตาผู้ใหญ่ และเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับตัวเธอเอง
" แทค!! ทางนี้ " เสียงใสเจื้อยเเจ้วเรียกชายหนุ่มร่างยักษ์ ที่ก้าวเข้ามาในโรงอาหาร นิชคุณร้องเรียกแฟนหนุ่มของตัวเอง
แทคยอนหันตามเสียงเรียกชื่อเค้า เสียงโปร่งใสที่เค้าจำได้ขึ้นใจ เค้ารีบตรงดิ่งไปยังกลุ่มเพื่อนร่วมบ้านของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าไปได้ครึ่งทาง หญิงสาวผมดัดลอนยาวก็ก้าวมายืนตรงหน้าเค้าอย่างที่เค้าไม่ทันได้ตั้งตัว จนเกือบจะชนกับผู้หญิงตรงหน้าเข้าเต็มๆ
"เหวอ!!." ชายตัวตัวโตร้องเสียงหลง
"โทษที..ฉันก้าวขาเร็วไปหน่อย" หญิงสาวผมดัดลอนกล่าว
" ไม่เป็นไรใช่ไหม" แทคยอนถามสุภาพสตรีตรงหน้า
" ฉันโอเค...ว่าแต่นายแล้วเหรอ" เฟยรวบรวมความกล้าถามเพื่อนรวมสาขา
" หายอะไร" แทคยอนเอียงหัวสงสัยในคำถาม และเค้ายังงงด้วยว่าผู้หญิงตรงหน้าของเค้าคือใคร
"ซึงซอนเบนิมบอกว่านายเข้าโรงบาล" เฟยย่นคิ้วเข้าหากันก่อนจะตอบคำถามของคู่สนทนา
"เธอเป็นใครน่ะ...ต้องการอะไร" แทคยอนขมวดคิ้วพร้อมก้าวถอยหลังทันที
"ฉันเป็นใครเหรอ...พระเจ้า!!" เฟยหน้าชาขึ้นทันที ดูเหมือนเธอจะเป็นอากาศธาตุในสายตาพ่อหนุ่มคนนี้ซะแล้ว
"ให้ตายเถอะ!!...โอ๊ย!!...ฉันเป็นเพื่อนร่วมคลาสของนายแล้วก็นี่ ฉันทำช็อตโน๊ตทุกวิชามาให้นาย" เฟยหัวร้อน หน้าร้อน แก้มร้อนไปหมด คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธออยากจะถามแล้ว เพราะเจ้าท็อปมหาลัยเพิ่งจะฉีกหน้าเธอตะกี้
"ช็อตโน๊ต...เอามาให้ทำไม...ไม่ต้องหรอก" แทคยอนปฏิเสธทันควัน เค้ากวาดสายตามองผู้หญิงตรงหน้าจากหัวถึงปลายเท้า วกกลับขึ้นมามองใบหน้าของเธอ เค้าใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับซูจีฮูเบ เด็กชมรมเบจจีนูน่า
"ไม่เหรอ!!..นี่ฉันเสียเวลาทำให้นายนะ!!" เฟยร้องเสียงหลง เธอขย้ำกระดาษม้วนในมือของเธอจนยับย่นแบบไม่ได้ตั้งใจ
"มีอะไรกันเหรอ" เสียงโปร่งใสเอ่ยขึ้นขัดสถานการณ์ตึงเครียด
"เปล่า...ไม่มีอะไร" แทคอยนตอบเจ้าของต้นเสียงคุ้นหูทันที
"งั้นไปกินข้าวกันเหอะ...คุณรอแทคจนท้องกิ้วแล้วนะ" นิชคุณตอบกลับเสียงขึ้นจมูก แทคยอนยิ้มแห้งๆก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่แฟนตัวขาวเบาๆ เค้าตั้งใจที่จะออกไปจากสถานการ์น่าอึดอัดนี้เต็มแก่แล้ว
"ฉันไม่อยากได้คะแนนเต็มมาเพราะว่านายป่วย..ฉันทำแบบนี้เพราะอยากจะแข่งกับนายแฟร์ๆ นายควรจะรับมันไป ถึงนายจะเอามันไปทิ้ง มันก็เรื่องของนาย" เฟยแผดเสียงออกมาอย่างเหลืออด เธอเกลียดการพ่ายแพ้ เกลียดการโดนปฏิเสธ
"เธอพูดถึงคะแนนสอบในห้องเรียน แสดงว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมคลาสของฉันสินะ แต่ว่าช็อตโน๊ตของเธอทำให้ฉันได้ที่1ในเทอมนี้ไม่ได้หรอก เพราะตัวเธอเองก็ไม่เคยได้คะแนะติด1ใน5ของคลาสเรียน...เพราะถ้าเธอทำคะแนนได้สูง ฉันคงจำเธอได้แล้ว" แทคยอนตอบกลับเสียงแข็ง ใบหน้าแกร่งดุดันขึ้นทันตา
"ใจร้าย!!...ให้ตายสิ!!..นี่ฉันคิดผิดคิดถูกที่เลือกนาย...โอ๊ย!!...ฉันอยากจะบ้า" เฟยหัวเสียตอบกลับทั้งน้ำตา คำพูดของชายหนุ่มตรงหน้ากรีดทึ้งหัวใจเธออย่างเลือดเย็น
เพี้ยะ!! เสียงเนื้อฟาดลงบนเนื้อดังสนั่นไปถั่ว เรียกความสนใจคนรอบด้านให้หันมาสนใจมากขึ้น แทคยอนยกนิ้วมือเรียวยาวของตนขึ้นสัมผัสกับใบหน้าของเค้า ความเจ็บแปล๊บๆเเล่นไปทั่วแก้มตอบๆของเค้า
"นายใจร้ายจริงๆด้วย...แบบนี้ไม่โอเคเลยแทค...คุณไม่โอเคเลย" นิชคุณส่ายหัวไปมา เค้ารับไม่ได้กับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากคนรักของเค้า แทคยอนหยาบเกียรต์ของเธอเกินไป
"ฉันลืมไปว่านายเป็นพวกใจดีกับเค้าไปทั่ว" แทคยอนพูดเสียงลอดใต้ฟัน เค้าลดแขนที่โอบตัวของนิชคุณลงมา
"มันไม่เกี่ยวกับใจดีรึเปล่า!!" นิชคุณพูดเสียงขึ้นจมูก
"นายอยากให้ฉันรับโน๊ตนั่นมาเป็นอย่างเเรก...แล้วก็รอรับอย่างอื่นตามมาเรื่อยๆแบบนั้นเหรอ" แทคยอนตอบพร้อมปรายตาไปมองเจ้าของปัญหาในชีวิตเค้า
"ฉันมะ...ไม่ได้.." เฟยกัดริมฝีปากตัวเอง เธอคิดว่าแทคยอนเข้าใจจุดประสงค์ของเธอ
"ไม่ว่าผู้ใหญ่ต้องการอะไร...มันก็เรื่องของเค้า...ฉันจะไม่เดินตามเกมสนั้น...ฉันอยากให้เธอเข้าใจฉัน" แทคยอนพูดข้างหูเฟย ดังพอที่เฟยจะได้ยินแค่คนเดียว
"ไหนนายบอกว่าไม่รู้ว่าฉันเป็นใครไง" เฟยตอบกลับเสียงสั่น เพราะใบหน้าของชายที่เธอหลงปลื้มอยู่ใกล้เธอมาก ใบหน้าที่แข็งกร่าวไม่ยอมลดความดุดันลง
"ตอนแรกก็ไม่..แต่ตอนนี้นึกออกแล้ว" แทคยอนตอบเสียงลอดฟัน
"พอได้แล้วแทค!! นายกำลังทำให้เธอกลัว" นิชคุณกระชากตัวของคนร่างหนาออกห่างจากร่างหญิงสาว
"เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม" แทคยอนกล่าวก่อนจะพละตัวออกไปตามแรงดึงของแฟนตัวขาว ทิ้งให้หญิงสาวผมลอนยืนขาสั่นอยู่กับที่ เธอไม่ชอบการถูกคุกคามโดยเพศตรงข้าม แต่เธอถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว เธอตอบตกลงที่จะหมั่นกับแทคยอน พ่อแม่ของเธอได้ทำการพูดคุยกับทางผู้ปกครองของแทคยอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การแต่งงานทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่นับรวมความสมัครใจ จากประวัติคู่ดูตัวของเธอทั้งหมด แทคยอนดูเป็นคนที่ประวัติขาวสะอาดมากที่สุด เค้าไม่เคยทำผิดกฏหมาย ไม่เจ้าชู้ ไม่มั่ว ไม่ซื้อบริการทางเพศ ใช่ เธอไม่มีทางเลือก
"แทคตบคุณเหรอ" แทคยอนทำเสียงกระเง้ากระงอด นั่งเบะหน้าใส่แฟนตัวขาว
ชาน : นั่นมุขหรือเปลือกหอยแครง
มินจุน : หมอยแดง ทะลึ่งนะเรา
ชาน : หอยแครงครับ
จุนโฮ : หอยอะไรวะ ไม่รู้จัก!!
ชาน : ไปหากูเกิ้ลเอาสิ
จุนโฮ : ขี้เกียจ
ชาน : ก็ขี้เกียจตลอดแหละ
จุนโฮ : พูดให้มันดีๆ
ชาน : ไม่ได้พูด พิมพ์อยู่
มินจุน : พอเลยๆ
จุนโฮ : @คุณ คุณฮยองยังอยู่ไหมครับ ทำข้าวผัดให้ผมด้วยสิ
ชาน : เป็นแฟนเค้ารึไง เค้าถึงต้องทำให้
จุนโฮ : ทำไมหึงเหรอ
ชาน : ไม่หึง พูดไม่ได้เหรอ
จุนโฮ : หึงก็บอก
ชาน : ถ้าพูดงี้ไปแล้วนะ
จุนโฮ : เออฉันก็จะไปแล้วเหมือนกัน
มินจุน : @คุณ @แทค พวกนายยังอยู่ไหม ...
มินจุน : อ่าวนี่ไปกันหมดเลยเหรอ
มินจุน : @อูยอง อยู่ไหม
อูยอง : อยู่
มินจุน : แล้วทำไมไม่คุย
อูยอง : คนมันติสซ์
มินจุน : อืม....
นิชคุณจัดแจงเตรียมทำอาหารไปให้แทคยอน และทำอีกนิดหน่อยไปเผื่อเพื่อนๆ เค้าบรรจงบรรจุอาหารลงปิ่นโตที่ซื้อมาจากประเทศไทยลงไปทีละชั้น นานมากแล้วที่เค้าไม่เคยหยิบมัันออกมาใช้ แต่โชคดีที่เค้าไว้ใจในคุณาพของเครื่องครัวตราหัวม้าลาย เครื่องครัวที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ชายหนุ่มผิวขาวจัดเถาปิ่นโตลงในถุงช็อปปิ้งมอล์ เเละเคลื่อนย้ายไปไว้ในรถคาดิลแลคสีแดงคันงาม สาเหตุที่เค้าต้องเอาปิ่นโตบรรจุในถุงก็เพราะว่าเค้ากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆทำให้รถของเค้าเปื้อน
ณ มหาลัยในช่วงกลางวันแดดแรงเปรี้ยงปร้างผิดกับอากาศเย็นสบายในตอนเช้าราวฟ้ากับเหว ช่วงกลางวันที่เป็นมื้อพักกินข้าวมีเด็กนั่งกระจัดกระจายกันไปตามจุดต่างๆทั้งสนามหญ้า ม้านั่งใต้ต้นไม้ พื้นทางเดิน เรื่อยไปจนถึงห้องอาหาร ที่จัดอย่างเป็นสัดส่วนสวยงาม กลุ่มนักศึกษาต่างก็รวมตัวกันไปตามความชอบของตัวเอง
เฟยนักศึกษาสาวปี3 นั่งก้มหน้างุดอยู่กับกองหนังสือเหมือนเช่นเดิมทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปหน่อยตรงที่เธอตื่นเต้นกว่าปกติเอามากๆ ในขณะที่เพื่อนๆร่วมกลุ่มต่างก็สนใจกับกิจกรรมของตัวเอง ไม่มีใครรับรู้ความผิดปกติของเพื่อนของเธอเลย
ด้านเด็กๆร่วมบ้านก็จับจองที่นั่งไม่ห่างจากที่เดิมมากนัก ต้นเหตุเพราะมีนักสึกษากลุ่มอื่นมาใช้สถานที่ประจำของพวกเค้าเสียแล้ว มินจุนซึ่งมาก่อนใครเพื่อน โยนกระเป๋าเป้ของตนลงบนโต๊ะอาหารที่ว่างอยู่ หยิบโทรศัพท์ออกมาไลน์ไปบอกน้องๆในกลุ่มว่าเค้าได้ที่นั่งตรงไหน จางอูยองเป็นคนที่2ที่มาถึง พี่มินจุนพพยับพเยิบส่งสัญญาณให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องมานั่งข้างเค้า ซึ่งจางอูยองก็ตามน้ำไป
จุนโฮมาถึงจุดนัดหมายคนที่3 หลังจากเค้าต้องตามเอารายงานของตัวเองที่ส่งไม่ทันในห้องเรียนไปส่งที่โต๊ะอจ.ด้วยตัวเองก่อน จุนโฮเป็นนักเรียนดีเด่นในสายการเรียนของเค้า ถึงเค้าจะดูเป็นคนง่ายๆ แต่ตัวจริงนั้นแตกต่างกันเยอะในเรื่องการเรียนและการทำงาน เค้าเป็นคนเจ้าระเบียบที่ละเอียดมาก ต้องวางแผนและตรวจสอบงานที่ตัวเองทำก่อนส่งเสมอ ส่วนมักเน่นั้นตอนนี้เค้ากำลังสนใจอย่างอื่นนอกจากการเรียนในคณะอักษรศาสตร์ นั่นก็คือการแสดงละครเวที ช่วงหลังๆนี้เค้ามักจะไปนั่งดูเพื่อนๆที่เรียนการแสดง และกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่เข้ามาขอยืมโรงละครใช้ กระทั่งการแสดงทีสิตจบของรุ่นพี่ที่กำลังจะจบ ราวกับว่าเค้าจะหันเหเป้าหมายอย่างไงอย่างงั้น เพราะแบบนี้เองเจ้าตัวถึงได้มาที่หลังคนอื่นเสมอ
แทคยอน2จิต2ใจกับการตัดสินใจว่าจะไปทำอะไรก่อน สุดท้ายเค้าก็เลือกที่จะไปทำธุระของตัวเองที่ตึกของภารโรง เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นเค้าทำของสำคัญบางอย่างหายไประหว่างที่เข้าเรียนที่ตึกA เค้าไม่รู้ว่า ของชิ้นนั้นหายไปตอนไหน ถึงแม้เค้าจะรีบกลับไปหาทันทีที่นึกได้ แต่เค้าก็ยังหามันไม่เจอ เค้าหวังว่าจะมีเจ้าพนักงานคนใดคนนึงเก็บของได้ และรอให้นักศึกษากลับไปรับคืน แน่นอนว่าเค้ามั่นใจว่าสิ่งที่เค้าทำหายไปนั้นมีเพียง2ชิ้นในโลก ถ้าบังเอิญไม่มีใครไปปรับเปลี่ยนอะไรมันละก็นะ
ด้านนิชคุณขับรถมาถึงมหาลัย เค้าได้พิกัดนัดหมายจากมินจุนฮยองเป็นที่เรียบร้อย ชานชองอาสาจะไปช่วยคุณฮยองถือปิ่นโตมาที่โรงอาหาร
เฟยรวบรวมความกล้าถือเปเปอร์ช็อตโน๊ตของเธอที่เสียเวลาย่อเป็น2ชุด ย่อให้ต่างไปจากช็อตโน๊ตของเธอเพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดหากได้เห็นมันเข้า เธอหันซ้ายแลขวา จดจ้องสายตาไปที่กลุ่มท็อปมหาลัย ในวันนี้นักศึกษากลุ่มนั้นนั่งอยู่ไกลจากกลุ่มของเธอไปพอสมควร และคนที่เธอต้องการพบตัวยังคงไม่เห็นเงา ถึงแม้เธอจะมีโอกาสได้เจอตัวใกล้ๆในคาสเรียน แต่เธอก็คิดว่ามันคงเป็นจุดเด่นเกินไปหากเธอเข้าไปทักเค้าก่อน และเเน่นอนว่าเพื่อนๆในชั้นเรียนคงแปลกใจเช่นกัน
เมื่อคืนก่อน คุณพ่อของเธอซึ่งเป็นว่าที่สส.ที่กำลังจะลงสมัครคัดเลือกเป็นตัวเเทนเขต ท่านเรียกเธอเข้าพบในยามค่ำคืน คุณแม่ของเธอมีทีท่าตื่นเต้นต่างไปจากทุกที เมื่อเธอเข้าไปพบคุณพ่อในห้องทำงาน คุณพ่อของเธอส่งสมุดปกแข็งสีดำมาให้เธอ ในนั้นมีภาพชายหนุ่มหลายคน และ1ในนั้นมีชายที่เธอรู้จักในคาสเรียนอยู่ด้วย ดูเหมือนว่าพ่อของเธอต้องการให้เธอแต่งงานกับใครสักคนที่อยู่ในสมุดเล่มหนาในมือเธอ คุณแม่ของเธอลุกมายืนข้างเธอ และอ่านคุณสมบัติของชายแต่ละคนอย่างหน้าชื่นตาบาน ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุ22ปี เหตุใดเธอจึงต้องรีบแต่งงานกัน เธอมีความฝันที่จะเรียนให้จบ และออกท่องไปบนโลกอันกว้างใหญ่นี้ ใช้ความรู้ความสามารถ และทำสิ่งที่เธออยากจะทำ นั่นก็คือ หน่วยอาสาช่วยเหลือเด็กถูกทิ้ง เด็กที่ถูกทารุณกรรม ถึงการมีแฟนจะเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงวัยอายุเท่าเธอ แต่การแต่งงานมันห่างกันไปไกล ที่สำคัญหากเธอเลือกแต่งงานกับครอบครัวที่มีอิทธิพลทางการเมือง เธออาจจะต้องจับเจ่าทั้งชีวิตอยู่กับการส่งเสริมสามี หรือคุณพ่อสามีขึ้นแท่นการปกครอง เธอไตร่ตรองระหว่างถือสมุดปกแข็งในมือ ที่น่าแปลกใจเหนือสิ่งอื่นใดคือ ชายคนที่เธอรู้จักก็เป็นหนึ่งในลูกชายของกลุ่มผู้มีอิทธิพลด้วย แน่นอนว่าเธอต้องเลือกชายคนใดคนนึงในสมุดเล่มนี้อย่างเสียไม่ได้ แต่เธอก็ขอเวลา เธอต้องไตร่ตรองให้รอบครอบ เพราะเส้นทางการเมืองมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่บอบบางในสายตาผู้ใหญ่ และเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับตัวเธอเอง
" แทค!! ทางนี้ " เสียงใสเจื้อยเเจ้วเรียกชายหนุ่มร่างยักษ์ ที่ก้าวเข้ามาในโรงอาหาร นิชคุณร้องเรียกแฟนหนุ่มของตัวเอง
แทคยอนหันตามเสียงเรียกชื่อเค้า เสียงโปร่งใสที่เค้าจำได้ขึ้นใจ เค้ารีบตรงดิ่งไปยังกลุ่มเพื่อนร่วมบ้านของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าไปได้ครึ่งทาง หญิงสาวผมดัดลอนยาวก็ก้าวมายืนตรงหน้าเค้าอย่างที่เค้าไม่ทันได้ตั้งตัว จนเกือบจะชนกับผู้หญิงตรงหน้าเข้าเต็มๆ
"เหวอ!!." ชายตัวตัวโตร้องเสียงหลง
"โทษที..ฉันก้าวขาเร็วไปหน่อย" หญิงสาวผมดัดลอนกล่าว
" ไม่เป็นไรใช่ไหม" แทคยอนถามสุภาพสตรีตรงหน้า
" ฉันโอเค...ว่าแต่นายแล้วเหรอ" เฟยรวบรวมความกล้าถามเพื่อนรวมสาขา
" หายอะไร" แทคยอนเอียงหัวสงสัยในคำถาม และเค้ายังงงด้วยว่าผู้หญิงตรงหน้าของเค้าคือใคร
"ซึงซอนเบนิมบอกว่านายเข้าโรงบาล" เฟยย่นคิ้วเข้าหากันก่อนจะตอบคำถามของคู่สนทนา
"เธอเป็นใครน่ะ...ต้องการอะไร" แทคยอนขมวดคิ้วพร้อมก้าวถอยหลังทันที
"ฉันเป็นใครเหรอ...พระเจ้า!!" เฟยหน้าชาขึ้นทันที ดูเหมือนเธอจะเป็นอากาศธาตุในสายตาพ่อหนุ่มคนนี้ซะแล้ว
"ให้ตายเถอะ!!...โอ๊ย!!...ฉันเป็นเพื่อนร่วมคลาสของนายแล้วก็นี่ ฉันทำช็อตโน๊ตทุกวิชามาให้นาย" เฟยหัวร้อน หน้าร้อน แก้มร้อนไปหมด คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธออยากจะถามแล้ว เพราะเจ้าท็อปมหาลัยเพิ่งจะฉีกหน้าเธอตะกี้
"ช็อตโน๊ต...เอามาให้ทำไม...ไม่ต้องหรอก" แทคยอนปฏิเสธทันควัน เค้ากวาดสายตามองผู้หญิงตรงหน้าจากหัวถึงปลายเท้า วกกลับขึ้นมามองใบหน้าของเธอ เค้าใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับซูจีฮูเบ เด็กชมรมเบจจีนูน่า
"ไม่เหรอ!!..นี่ฉันเสียเวลาทำให้นายนะ!!" เฟยร้องเสียงหลง เธอขย้ำกระดาษม้วนในมือของเธอจนยับย่นแบบไม่ได้ตั้งใจ
"มีอะไรกันเหรอ" เสียงโปร่งใสเอ่ยขึ้นขัดสถานการณ์ตึงเครียด
"เปล่า...ไม่มีอะไร" แทคอยนตอบเจ้าของต้นเสียงคุ้นหูทันที
"งั้นไปกินข้าวกันเหอะ...คุณรอแทคจนท้องกิ้วแล้วนะ" นิชคุณตอบกลับเสียงขึ้นจมูก แทคยอนยิ้มแห้งๆก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่แฟนตัวขาวเบาๆ เค้าตั้งใจที่จะออกไปจากสถานการ์น่าอึดอัดนี้เต็มแก่แล้ว
"ฉันไม่อยากได้คะแนนเต็มมาเพราะว่านายป่วย..ฉันทำแบบนี้เพราะอยากจะแข่งกับนายแฟร์ๆ นายควรจะรับมันไป ถึงนายจะเอามันไปทิ้ง มันก็เรื่องของนาย" เฟยแผดเสียงออกมาอย่างเหลืออด เธอเกลียดการพ่ายแพ้ เกลียดการโดนปฏิเสธ
"เธอพูดถึงคะแนนสอบในห้องเรียน แสดงว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมคลาสของฉันสินะ แต่ว่าช็อตโน๊ตของเธอทำให้ฉันได้ที่1ในเทอมนี้ไม่ได้หรอก เพราะตัวเธอเองก็ไม่เคยได้คะแนะติด1ใน5ของคลาสเรียน...เพราะถ้าเธอทำคะแนนได้สูง ฉันคงจำเธอได้แล้ว" แทคยอนตอบกลับเสียงแข็ง ใบหน้าแกร่งดุดันขึ้นทันตา
"ใจร้าย!!...ให้ตายสิ!!..นี่ฉันคิดผิดคิดถูกที่เลือกนาย...โอ๊ย!!...ฉันอยากจะบ้า" เฟยหัวเสียตอบกลับทั้งน้ำตา คำพูดของชายหนุ่มตรงหน้ากรีดทึ้งหัวใจเธออย่างเลือดเย็น
เพี้ยะ!! เสียงเนื้อฟาดลงบนเนื้อดังสนั่นไปถั่ว เรียกความสนใจคนรอบด้านให้หันมาสนใจมากขึ้น แทคยอนยกนิ้วมือเรียวยาวของตนขึ้นสัมผัสกับใบหน้าของเค้า ความเจ็บแปล๊บๆเเล่นไปทั่วแก้มตอบๆของเค้า
"นายใจร้ายจริงๆด้วย...แบบนี้ไม่โอเคเลยแทค...คุณไม่โอเคเลย" นิชคุณส่ายหัวไปมา เค้ารับไม่ได้กับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากคนรักของเค้า แทคยอนหยาบเกียรต์ของเธอเกินไป
"ฉันลืมไปว่านายเป็นพวกใจดีกับเค้าไปทั่ว" แทคยอนพูดเสียงลอดใต้ฟัน เค้าลดแขนที่โอบตัวของนิชคุณลงมา
"มันไม่เกี่ยวกับใจดีรึเปล่า!!" นิชคุณพูดเสียงขึ้นจมูก
"นายอยากให้ฉันรับโน๊ตนั่นมาเป็นอย่างเเรก...แล้วก็รอรับอย่างอื่นตามมาเรื่อยๆแบบนั้นเหรอ" แทคยอนตอบพร้อมปรายตาไปมองเจ้าของปัญหาในชีวิตเค้า
"ฉันมะ...ไม่ได้.." เฟยกัดริมฝีปากตัวเอง เธอคิดว่าแทคยอนเข้าใจจุดประสงค์ของเธอ
"ไม่ว่าผู้ใหญ่ต้องการอะไร...มันก็เรื่องของเค้า...ฉันจะไม่เดินตามเกมสนั้น...ฉันอยากให้เธอเข้าใจฉัน" แทคยอนพูดข้างหูเฟย ดังพอที่เฟยจะได้ยินแค่คนเดียว
"ไหนนายบอกว่าไม่รู้ว่าฉันเป็นใครไง" เฟยตอบกลับเสียงสั่น เพราะใบหน้าของชายที่เธอหลงปลื้มอยู่ใกล้เธอมาก ใบหน้าที่แข็งกร่าวไม่ยอมลดความดุดันลง
"ตอนแรกก็ไม่..แต่ตอนนี้นึกออกแล้ว" แทคยอนตอบเสียงลอดฟัน
"พอได้แล้วแทค!! นายกำลังทำให้เธอกลัว" นิชคุณกระชากตัวของคนร่างหนาออกห่างจากร่างหญิงสาว
"เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม" แทคยอนกล่าวก่อนจะพละตัวออกไปตามแรงดึงของแฟนตัวขาว ทิ้งให้หญิงสาวผมลอนยืนขาสั่นอยู่กับที่ เธอไม่ชอบการถูกคุกคามโดยเพศตรงข้าม แต่เธอถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว เธอตอบตกลงที่จะหมั่นกับแทคยอน พ่อแม่ของเธอได้ทำการพูดคุยกับทางผู้ปกครองของแทคยอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การแต่งงานทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่นับรวมความสมัครใจ จากประวัติคู่ดูตัวของเธอทั้งหมด แทคยอนดูเป็นคนที่ประวัติขาวสะอาดมากที่สุด เค้าไม่เคยทำผิดกฏหมาย ไม่เจ้าชู้ ไม่มั่ว ไม่ซื้อบริการทางเพศ ใช่ เธอไม่มีทางเลือก
"แทคตบคุณเหรอ" แทคยอนทำเสียงกระเง้ากระงอด นั่งเบะหน้าใส่แฟนตัวขาว
วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561
ข้อตกลงรักระหว่างเรา11 (แทคคุณ)
*ก็จะเป็นบทสั้นๆนิดนึง
ตอนที่11 : พายุตั้งเค้า
เสียงคึกคักๆดังเป็นจังหวะ เงียบๆหายหาย
เสียงกึกกักๆดังเป็นระยะๆ มาจากผนังห้องทิศตะวันออกของห้องรุ่นน้อง
เจ้าของห้องคนนึงนั่งเอามือปิดปาก อมยิ้มหัวเราะคิกคักๆ ส่วนอีกคนประสาทเสียจนทนอยู่แทบไม่ได้
ต้องควานหาสายหูฟังขึ้นมาเสียบหูเค้าไว้และยกหมอนขึ้นปิดหน้า
เด็กแก้มบวมกัดฟันกรอดขยำหมอนสีขาวในมือเค้าอย่างรุนแรง แบบนี้มันเกินไปแล้ว
หยามกันเกินไปแล้ว เพิ่งคบกันได้ไม่กี่วันเอง
ก็ร่วมหัวลงเตียงกันแล้ว
“โว้ย!!” เสียงคนทนไม่ไหว
ว๊ากออกมา เด็กน้อยแก้มบวมเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียง
เค้าเขวี้ยงหมอนสีขาวในมือไปที่กำแพงห้องทิศตะวันออก
ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับเตียงของอีจุนโฮเพื่อนร่วมห้อง
“ย๊า!! นายปาใส่หัวฉันทำไม!!” อีจุนโฮโพลงออกมาเสียงเขียว มืออวบหยิบหมอนสีขาวของรุ่นพี่อูฮยองโยนกลับไปที่เตียงเจ้าของมัน
“ฮึ่ม!!” จางอูยองหน้าหงิกงองุ้ม
หันมองจ้องหน้าตาขวางใส่รุ่นน้องเตียงข้างๆ
ก่อนจะกระแทกเท้าปึงปังเดินออกจากห้องนอน
“ก็แบบนี้แหละน้า...คนไม่สำคัญ” เด็กตาตี่เปรยกระหยิ่มยิ้มหย่องคนเดียว
แต่ในใจลึกๆของเค้าก็ไม่อยากเห็นอูฮยองเสียใจ เพราะสักวันนึงเค้าอาจจะต้องชะตาเดียวกันกับรุ่นพี่อูฮยองก็ได้
น้องหมียักษ์ที่วันๆเอาแต่สนใจหนังสือเรียน
กับงานอดิเรกคืออ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นเล่มนั้น
สร้างความเจ็บปวดให้หัวใจอิจุนโฮยิ่งหนัก ‘มันมีอะไรดีเหรอไอ้หนังสือเล่มนั้น!!.’ จุนโฮเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันตัวเอง
เสียงเอี๊ยดอ๊าดๆ เรียกความสนใจให้รุ่นพี่มินจุนฮยองต้องฉงน เค้าได้ยินเสียงประหลาดดังทะลุผ่านเฮดโฟนของเค้าขณะกำลังแต่งโน๊ตคีย์เพลงที่จะใช้สอบ มินจุนยกมือขึ้นเลื่อนที่ครอบหูออกข้างนึง เจ้าตัวถึงกับขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเพื่อนข้างห้องของเค้ากำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะอะไรสักอย่างในห้องซึ่งมันรบกวนการทำงานของเค้าเสียเหลือเกิน
มินจุนเดินเฉิบๆมาที่ประตูห้องนอน เค้าตั้งใจว่าจะไปขัดกิจกรรมของเพื่อนข้างห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเปิดประตูออกมาเจอใบหน้าหงิกๆของเด็กน้อยที่เค้าหลงรัก ท่าทางของเด็กหนุ่มแสดงชัดว่ากำลังจมดิ่งกับความทุกข์ทรมาน นั่นทำให้มินจุนลืมเรื่องที่ตั้งใจออกมาทำ จางอูยองคว้าเสื้อโค้ทตัวยาวออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าเงินสีดำ ดูจากรูปการณ์มินจุนฮยองคิดว่าน้องแก้มบวมคงจะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศแน่ๆ เค้าหันหลังหลับเข้าห้องคว้าเสื้อฮูดแขนยาวที่พาดไว้ที่เก้าอี้ กับหมวกสีดำ และกระเป๋าเป้ของต้น วิ่งตามเด็กน้อยออกไป
ไม่นานนักประตูห้องต้นเสียงก็เปิดผัวะออกมา พร้อมกับเสียงบ่นอุบงึมงัมๆ เจ้าของห้องเดินหน้าหงิกออกมาอีกคน แทคยอนเดินสะบัดแข้งสะบัดขา ฟาดงวงฟาดงาออกมานั่งที่โซฝายาวข้างนอก หมีชานเงยหน้าขึ้นสบตารุ่นพี่ร่างยักษ์ของเค้า เค้าชะเง้อหน้าไปที่ประตูห้องนอนเจ้าปัญหา
“มองหาอะไรน่ะชาน” พี่แมวยักษ์เอี้ยวคอตามสายตาน้องไปที่ประตูห้องนอนของเค้า
“ออกมาคนเดียวรึครับ..แล้วคุณฮยองล่ะครับ” หมียักษ์ถามไถ่
“ทำไมต้องออกมา2คนล่ะ ไม่ได้ตัวติดกันสักหน่อย” พี่แมวยักษ์ตอบ เค้าขยับตัวกระดุ๊กกระดิ๊กหามุมให้ตัวเองนอนบนโซฟาตัวเล็กได้ เพราะโซฟาตัวยาว มีหมีชานนอนเหยียดยาวอยู่
“ทำไมออกมานอนข้างนอกล่ะครับ...เตียงข้างในก็มี” หมีชานถามหน้าตาย เค้าขยับนิ้วพลิกหน้ากระดาษหนังสือตามไปด้วยขณะสนทนา
“เตียงน่ะมี...แต่นอนไม่ได้!!” พี่แมวยักษเบะหน้า ซุกหัวลงกับผนักวางแขนโซฟา
“หึ หึ” หมีชานหัวเราะเบาๆ เค้ายิ้มแล้วส่ายหัวไปมา
“หัวเราะอะไรของนายกัน...ไม่ใช่เรื่องขำสักนิด ...ให้ตายสิทำไมต้องรักความสะอาดขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็กวาดห้อง เดี๋ยวก็ถูพื้น เดี๋ยวก็ย้ายนู่นย้ายนี่ จัดนู่นจัดนี่...เสียงดังเป็นบ้าเลย..คนจะนอนก็นอนไม่ได้..แถมยังบ่นแว๊ดๆอย่างกับคนแก่วัยทอง ..ไม่รู้อะไรนักหนา..นายอยู่ข้างนอกไม่ได้ยินเสียงเหรอ ฮยองว่าเสียงมันดังทะลุกำแพงแน่ๆ” รุ่นพี่ตัวโตเด้งตัวขึ้นมานั่ง บ่นแว๊ดๆออกมาอย่างเหลืออด
“หืม...พวกฮยองไม่ได้กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ” หมีชานเลิกคิ้ว2ข้างขึ้น แปลกใจกับคำตอบที่เหนือความคาดหมาย
“ทำอะไรที่ว่าหมายถึงอะไร” คนฟังถึงกับงง
“ก็แบบที่ฮยองทำกันที่โรงพยาบาลวันนี้ไง...พวกผมเข้าใจว่าพวกฮยองกลับมาต่อยกแรกกันให้จบซะอีก” หมีชานตอบกลับตามสิ่งที่เค้าคิดและเห็นท่าที่ของเพื่อนร่วมบ้านที่เพิ่งจะกระฟัดกระเฟียดออกไป ทั้งที่คืนนี้อากาศวิปริตผิดเพี้ยน หนาวจนแทบจะเป็นน้ำแข็ง
“บ้าไปแล้ว!!..ต่งต่ออะไรกันล่ะ ไม่มีสักยกนั่นแหละ ว่าแต่ตะกี้นายพูดว่า พวกเราหมายความว่าไง มีนายนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวนี่” แทคยอนย่นคิ้วเข้าหากัน หันซ้ายแลขวามองไปรอบๆตัว
“อูฮยองเพิ่งจะหัวฟัดหัวเหวี่ยวออกไปตะกี้นี้ มินจุนฮยองก็เลยตามออกไปน่ะ “ หมีชานตอบ
“เวร!!” แทคยอนได้ยินคำตอบเค้าถึงกับนั่งไม่ติดที่ เค้าควรจะตามเด็กแก้มบวมออกไป อธิบายให้เด็กคนนั้นเข้าใจว่า เค้าไม่ได้ทำอะไรกับนิชคุณ เค้าไม่อยากเห็นเด็กคนนั้นเจ็บมากไปกว่าการที่เค้าได้นิชคุณมาครองง่ายๆ
“แทคฮยอง!!..” หมีชานลุกขึ้นก้าวตามไปจับข้อมือรุ่นพี่ของเค้า
“มีอะไร..รึเปล่า” แทคยอนหันมาถามเมื่อมือของรุ่นน้องเค้าคว้าหมับมาที่แขนเค้า
“คืนนี้อากาศเย็น..ฮยองไม่ควรออกไปข้างนอกนะครับ..ฮยองควรจะทำร่างกายให้อบอุ่น...ไม่งั้นเดี๋ยวปอดจะแย่” หมีชานโผลงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้ารุ่นน้องเครียดขึงบ่งบอกความกังวลใจลึกๆ
“อะไรจะแย่นะ” รุ่นพี่ตัวโตทวนคำพูด เพ่งพินิจใบหน้าของรุ่นน้อง ราวกับว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเค้าล่วงรู้ความลับที่เค้าไม่เคยเผยให้ใครรู้
“ทำไม” แทคยอนถามกลับเสียงเย็น ดวงตาดำขลับแข็งกร้าวขึ้นมาในบัดดล
“อ่ะ..เอ่อ..เออ..หมอ..หมอคนนั้นกำชับกับผมว่าให้ผมดูแลเรื่องสุขภาพของพี่ให้ดีกว่านี้...ผมคิดว่าพี่เพิ่งหายป่วยพี่ไม่ควรออกไปตากอากาศเย็นข้างนอก” หมีชานรีบดึงมือตัวเองกลับ เค้าเกือบจะทำพลาดไปแล้ว เค้าไม่ควรแสดงความห่วงใยออกมาให้มากเกินไป ถ้าหากเค้ายังอยากยืนอยู่ในบ้านนี้ ยืนอยู่ในที่ๆมองเห็นแทคยอนได้ในระยะใกล้
“งั้นเหรอ” แววตาคมกริบอ่อนโยนลงเมื่อได้ฟังคำตอบที่เข้าหู
“เดี๋ยวผมจะออกไปตามให้เอง...ฮยองอยู่ที่บ้านนี่แหละ” หมีชานรีบออกตัว เค้าจัดแจงเก็บหนังสือที่วางบนโซฟา แล้วลุกพรวดพราดกลับ เข้าไปหยิบของในห้องของตน และรีบออกจากบ้านไป
เช้าวันนี้นิชคุณจัดโต๊ะอาหารนอกบ้าน เพราะเค้าวางแผนจัดทำความสะอาดบ้านในวันนี้ซึ่งเค้าไม่มีเรียน
"พ่อแม่คุณจะมา" เสียงกังวานใสเปล่งออกมาขณะที่เพื่อนร่วมบ้านทุกคนล้อมวงกันกินข้าวในตอนเช้าก่อนไปมหาลัย
"พ่อแม่นายจะมาทำไม" เสียงทุ้มขัดขึ้นทันที
"ก็...เเม่อยากเจอแทค" นิชคุณตอบกลับเสียงอ่อย
"จะมาเมื่อไหร่" แทคยอนถามกลับ
"ไม่รู้ แม่ไม่ได้บอก..เพราะงี้เมื่อคืนคุณถึงได้จัดห้อง...ช่วงนี้แทคต้องทำอะไรเป็นระเบียบหน่อยนะ..แม่คุณไม่ชอบให้กองเสื้อผ้าทิ้งไว้ที่พื้น แล้วก็โอ๊ย!! หลายอย่างเลยอะแทค!!" คนตัวขาวตอบเสียงขึ้นจมูก
"นายขอยากไปนะคุณ จะให้เจ้าแมวนอนหวดนี่เก็บของเป็นที่เป็นทางนี่มันยากกว่าทำข้อสอบโทอิกอีก" มินจุนฮยองแสดงความคิดเห็นขณะตักข้าวเข้าปากดื่มดำกับบรรยากาศยามเช้ากับการตั้งสำหรับอาหารนอกบ้าน
"เสียงเอี๊ยดอ๊าด กุกกักๆ เมื่อคืนนี่เสียงจัดห้องเหรอครับ" รุ่นน้องตาตี่เบิกตาโตกว้างเหลือเชื่อกับความเป็นจริง เเหมตัวเค้าก็คิดไปเสียไกล จินตนาการไปต่างๆนาๆ
"จบปัญหาเรื่องจัดของไม่เป็นระเบียบง่ายๆครับ...พวกฮยองควรแยกกันนอนคนละห้อง..คุณฮยองควรกลับไปนอนที่ห้องตัวเองครับ" หมีชานเอ่ยครับแนะนำ
"ทำไมต้องทำแบบนั้น" รุ่นพี่ตัวขาวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำแนะนำของมักเน่
"มันควรจะทำให้ถูกต้องนะครับ..อย่างน้อยก็ควรอนุญาตพ่อแม่ก่อน" หมีชานตอบกลับน้ำเสียงจริงจัง
"ฮยองไม่ใช่เด็กไม่ใช่ผู้หญิง ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย" รุ่นพี่ตัวขาวตอบเสียงเครียดอารมณ์คุกรุ่น
"พ่อแม่ฮยองคิดยังไงกับการมีลูกเป็นเกย์" หมีชานถามกลับเสียงเครียด
"ฮยองคุยกับแม่แล้ว..." คนตัวขาวนิ่วหน้าตอบกลับเสียงเครียด เค้าหงุดหงิดก็เพราะเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เค้าตื่นเต้นมากจนไม่ทันได้คิดว่าพ่อแม่จะเห็นด้วยไหม เค้าไม่ได้อยู่ในประเทศที่เปิดกว้างเรื่องทางเพศ ถึงแม่เค้าจะไม่ได้บังคับว่าเค้าจะต้องแต่งงานมีลูก แต่กับคุณพ่อทุกอย่างมันต่างออกไป เค้าพยายามคิดหาคำพูด คำพูดที่จะเปิดใจคุณพ่อของเค้าได้
"แยกกันนอนไปก่อนคุณ...เรื่องนี้แทคคิดว่าชานพูดถูก" แทคยอนที่นั่งเงียบมาสักพักเเสดงความคิดเห็น
"เห็นด้วยกับคำพูดชานเหมือนกัน" อีจุนโฮและมินจุนฮยองแสดงความคิดเห็น เรื่องการแสดงออกทางเพศเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหวในประเทศของพวกเค้า พวกเค้ามีความรักที่แตกต่างได้ แต่ต้องไม่ใช่ในที่แจ้ง และต้องไม่ใช่กับคนที่มีหัวคัดค้าน
"แต่พวกนายเป็นคนยุให้ฮยองรับรักแทคนะ" นิชคุณแย้งขึ้นมาเมื่อไม่มีใครเข้าข้าง
"พวกผมสนับสนุนครับ แต่คนอื่นล่ะ คนรอบตัวที่อยู่กับพวกเรา พวกเค้ามีอิทธิพลกับพวกเรานะครับ" ชานชองตอบกลับ
"ที่มหาลัยก็ด้วยนะคุณ...นายเปิดเผยไม่ได้" แทคยอนพูดขึ้น
"ไหนแทคบอกว่า อยากให้คุณเปิดเผย อยากได้คนที่กล้าเดินไปด้วยกันกับแทคได้ไง" นิชคุณตอบเสียงสั่น แฟนหนุ่มเบะหน้า น้ำตาคลอเบ้า
"แทคอยากให้คุณแน่ใจว่าหากเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นแล้ว คุณจะไม่ทิ้งแทค" แทคยอนให้คำตอบ พร้อมโอบไหล่แฟนหนุ่มของเค้าเข้ามาแนบกาย ใบหน้าตอบซบลงบนเส้นผมพริ้วไหวสีน้ำตาลเข้ม
"ไม่เชื่อใจคุณเหรอ..คุณเลือกแล้ว..คุณ.." เสียงใสหม่นหมองลงเพราะเค้าเจ็บปวด อีกครั้งแล้วที่เค้าต้องเผชิญเหน้ากับปัญหาแบบนี้ ใช่เค้าเป็นผู้ชายปกติที่มีความคิดว่าผู้ชายต้องเกิดมาคู่กับผู้หญิง ผู้ชายไม่มีวันได้รักกับผู้ชาย แต่ครั้งนึงในชีวิตวัยเยาว์ก็ต้องมีสักครั้งที่คนเราสับสนเพศของตัวเอง แต่แน่นอนว่า ณตอนนั้นเค้าเลือกที่จะเป็นผู้ชายที่ตอบรับต่อเพศหญิง และลืมไปว่าครั้งหนึ่งเค้าเคยคิดต่างออกไป
วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561
ข้อตกลงรักระหว่างเรา 10 (แทคคุณ) NC
ตอนที่10 : กลางทุ่งข้าวโอ๊ต
เป็นช่วงเวลาที่น่าหดหู่ใจยิ่งนักสำหรับเด็กๆในบ้าน
พี่คนรองและน้องคนรองสุดท้ายเอาแต่คร่ำครวญโทษตัวเอง
แต่คนที่จะดูแย่ที่สุดคงหนีไม่พ้นนิชคุณเค้าที่เคยเป็นที่พึ่งให้เด็กๆในบ้าน
ในวันนี้เค้าดูแลแม้แต่ตัวเองยังไม่ได้ มินจุนฮยองขับรถพาเด็กๆไปเรียน
เค้าแบ่งหน้าที่กับหมีชาน เนื่องจากจุนโฮเรียนคณะเดียวกับมินจุน
มินจุนฮยองเลยจะรับหน้าที่ดูแลจุนโฮ
ส่วนหมียักษ์จะรับหน้าที่ดูแลรุ่นพี่ตัวขาวเพราะตึกเรียนอยู่ใกล้กัน
มหาลัยในช่วง2-3วันนี้ ข่าวลือการเลิกกันของท็อปมหาลัยกับนัมจูเป็นที่รู้กันให้ทั่ว
บ้างก็พูดกันว่า นัมจูเป็นต้นเหตุทำให้ท็อปมหาลัยป่วยกินไม่ได้นอนไม่หลับ
มาเรียนแทบไม่ไหว ด้านนัมจูเองก็ยังทำใจกับการเลิกกันครั้งนี้ไม่ได้
ทั้งสองจึงไม่ได้อยู่ใกล้ๆกันเหมือนแต่ก่อน ข่าวลือก็มีทั้งที่ดีและไม่ดี ด้านของแฟนคลับหนุ่มรูปงามก็ออกมาแอนตี้นัมจู
ด้านของหนุ่มๆก็แอนตี้พ่อทอปมหาลัยอย่างจริงจัง
เจสสิก้าแทบจะเป็นตั้งตัวตีของกลุ่มแฟนคลับ
เธอตั้งต้นเป็นศัตรูกับนัมจูเพื่อนสาวร่วมชั้นเรียนของเธอ
ในขณะที่ข่าวในมหาลัยซุบซิบนินทากันกระหึ่ม แต่นักข่าวกลับไม่ดึงเรื่องนี้ไปเขียนข่าว
ไม่ใช่เพราะต้นสังกัดปิดข่าวการมีแฟนของนัมจูไอดอลนักแสดงที่กำลังโด่งดังในตอนนี้
แต่สำนักข่าวส่วนใหญ่กลัวครอบครัวนิชคุณ
นัมจูรู้มาจากนักข่าวรุ่นใหญ่ที่เธอเคยเดทด้วย
"เธอดูนิชคุณสิ..โทรมเชียว คงจะเจ็บมากสินะ..คงนอนไม่หลับสินะ
"เจสสิก้าแทบจะปล่อยโฮออกมา เธอเจ็บปวดที่เห็นเทวดาของเธอไม่สบาย
"แต่ข่าววงในบอกว่า..เทวดาของเธอมีแฟนใหม่แล้วนี่"
เฟยตอบหน้าตาย ไม่เดือนร้อนอะไรตามเพื่อนของเธอเลย
"ไม่จริงหรอก ถ้ามีแฟนใหม่จะโทรมขนาดนี้เหรอยะ
ดูยังไงก็เหมือนคนอกหักตรอมใจมากกว่า...โธ่น่าสงสาร
และดูยันนัมจูสิ..ปากบอกเสียใจแต่การกระทำมันตรงกันข้ามเลย" เจสสิก้าแว๊ด
"ว่าแต่พ่อหูผีหายไปไหนน่ะ...ไม่เห็นมามหาลัย2-3วันแล้ว" เฟยเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่เธอจะหูชา
"อ่าตาแว่นไร้รสนิยมน่ะเหรอ...ได้ยินซึงฮยองกับเบคจีนู่นน่าคุยกันที่ห้องชมรมเมื่อเช้า
น่าจะป่วยหรืออะไรนี่แหละไปนอนอยู่โรงบาลมั้ง" ซุจีตอบคำถามของเฟย
เธอก็เลี่ยงที่จะคุยกับเจสสิก้าเหมือนกัน
"สนใจก็ลองไปคุยดูสิ" มินพูดขึ้นมาลอยๆ
"ใครสนใจ!!" เฟยตอบกลับรวดเร็วทันควัน
"ทำไมฉันต้องสนใจหมอนั่นด้วยล่ะ" เฟยร้อนตัวตอบอย่างไม่ทันคิด
ตัวเธอเองก้ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมสายตาของเธอถึงได้เอาแต่มองหาบุรุษหูผีนัก
"อ๋า...ไม่สนใจสินะ...งั้นคงนี้ฉันจองนะ"
มินแกล้งหยอดกลับสนุกๆอยากดูทีท่าเพื่อนสนิท
"อยากจองก็จองไปสิ.. ฉันไม่ได้สนใจหมอนั่นอยู่แล้ว"
เฟยตอบเสียง3 น้ำเสียงเธอหงุดหงิด
"ฉันล้อเล่นน่ะ...เธอก็รู้ฉันมีแฟนแล้ว" มินยิ้มหน้าแหยะ
"ฉันไม่รู้ด้วยหรอกย่ะ...ขออ่านหนังสือเเงียบๆละกัน" เฟยถอนหายใจหนัก
ก้มหน้าก้มตากับหนังสือตรงหน้าของเธอ ซูจีและมินจีส่ายหน้าให้กับความซึนของเพื่อนเธอ
หลังจากที่เด็กๆกลับมาบ้านในวันที่แทคยอนเข้าโรงพยาบาล
มินจุนฮยองโทรเรียกพนักงานทำความสะอาดบ้านมาเคลียร์กลิ่นในบ้าน
มินจุนฮยองเสนอแนวคิดเรื่องโละเครื่องสำอางค์
อุปกรณ์รักษาสุขภาพความงามทิ้งทั้งหมด มักเน่น้องเล็กควานชานชองกับแสดงความคิดเห็นต่างออกไป
เค้าคิดว่าปกติจุนโฮตัวติดกับแทค น้ำหอมที่จุนโฮใช้คงไม่ใช่ปัญหา
มินจุนฮยองนอนห้องเดียวกับแทคได้
ก็แสดงว่าแทคไม่น่าจะแพ้กลิ่นน้ำหอมของมินจุนฮยองเช่นกัน คนที่มีปัญหาตอนนี้คือ
ตัวเขากับอูฮยองมากกว่าเพราะปกติไม่ได้ใกล้ชิดกับแทคยอน ส่วนน้ำหอมของนิชคุณนั้นเป็นอันรู้กันว่าแพ้ชัวร์ๆ
ดังนั้นตอนนี้คนที่ต้องเปลี่ยนน้ำหอมคือชานและอูยอง เค้าจะเลือกใช้กลิ่นน้ำหอม1ใน3กลิ่นนี้ก่อน
มินฮยองพานิชคุณไปเลือกซื้อเครื่องสำอางค์กลิ่นที่แทคใช้
หมีชานไปเลือกซื้อน้ำหอมกับอูฮยอง และจุนฮยอง 2-3วันที่ผ่านมาเด็กๆในบ้านห่วงใยสุขภาพจิตรุ่นพี่คนรองของเค้ามาก
เนื่องจากนิชคุณจิตตกระแวงเรื่องกลิ่นน้ำหอม เค้าแทบจะใช้น้ำหอมโอ๊ตมีลล์อาบแทนน้ำ
เมื่อครบกำหนดการณ์การเข้าเยี่ยมมินจุนฮยองและจุนโฮซึ่งเลิกเรียนเร็วกว่าหมีชานและนิชคุณพวกเค้าจึงล่วงหน้าไปซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันก่อน
นิชคุณและชานชองตามมาสมทบทีหลัง เมื่อทั้ง4คนอยู่กันพร้อมหน้า
จึงตัดสินใจเข้าไปในห้องเยี่ยมพร้อมกัน ในห้องพักคนป่วยนั่งหัวเราะก๊ากดูโทรทัศน์
แทคยอนตักอาหารกลางวันเข้าปากอย่างอิ่มหมีพัมัน
สภาพเค้าดูไม่เหมือนคนป่วยที่ผ่านการปั๊มหัวใจมาเลย
"อ๊ะ!!ไง..กินข้าวด้วยกันไหม อาหารที่นี่อร่อยโคตร"
คนป่วยฉีกยิ้มร่าทักเสียงใส
"นายดูปกติดีนะ"
มินจุนฮยองเดินเข้ามาเพ่งพินิจใบหน้าเด็กหนุ่มบนเตียงผู้ป่วย
"นายไม่ได้แต่งหน้าใช่ไหมหลอกเราใช่ไหม"
มินจุนฮยองล้วงขวดคลีนเนอร์ในกระเป๋าเป้สะพายข้างขึ้นมาบีบใส่สำลีแผ่น
และถือวิสาสะปาดสำลีบนหน้าเจ้าแมวยักษ์
"แต่งนงแต่งหน้าบ้าอะไร...คนกำลังกินข้าวอยู่นะ!!"
แทคยอนหันหน้าหนีทันที่สำลีชุบโทนเนอร์สัมผัสเย็นวาบปาดมาบนโหนกแก้มของเค้า
"ไม่ได้แต่งหน้าจริงๆแฮะ..ดำเป็นคราบเดียว...นายล้างหน้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี่ย...นายควรจะล้างหน้าก่อนกินข้าวนะไอ้ตะกละ"
มินจุนทำหน้ายี๊ รีบทิ้งแผ่นสำลีลงถังขยะทันที
"ผมขอโทษนะฮยอง" เด็กตาตี่อี จุนโฮเริ่มเบะหน้าน้ำตาตก
เค้ายังคงเห็นภาพติดตาตอนพี่แมวยักษ์นอนนิ่งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลปั๊มหัวใจให้
"..อย่าร้องไห้สิมันไม่ใช่ความผิดนายเลย
ฮยองไม่ได้สำลักต๊อกติดคอตายสักหน่อย...เด็กดีมานี่มา..."
แทคยอนควักมือเรียกรุ่นน้องคนสนิทเข้ามาใกล้ๆ
"มานี่มา มาให้ฮยองกอดให้หายคิดถึงหน่อย"
เจ้าแมวยักษ์ยกยิ้มอบอุ่นกางแขน2ข้างรอเด็กหนุ่มรุ่นน้อง
"ฮยองอ่า" เด็กตาตี่โผตัวเข้ากอดรุ่นพี่คนสนิทของเค้า
"เนื้อนายน้อยลงรึเปล่า...ไม่ได้นะ!!นายเป็นหมอนของฮยองดังนั้นห้ามนายผอม
ห้ามอดข้าวเข้าใจไหม..มา..มากินข้าวกับฮยองดีกว่ามา" แทคยอนเริงร่าหวังจะปลอบขวัญจุนโฮ
เค้ารู้ตัวดีมาตลอดว่าร่างกายเข้ามีปัญหาอะไร เค้าต้องดูแลยังไง
และตัวเค้าจะอยู่ได้นานเเค่ไหน อีจุนโฮอารมณ์ดีขึ้นเมื่อเห็นแทคยอนตื่นขึ้นมา
กินข้าวได้และหัวเราะได้
"อร่อยไหม" แทคยอนตักอาหารในสำรับผู้ป่วยใส่ปากจุนโฮคำโต
"ครับ" จุนโฮพยักหน้าหงึกๆ เช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้มตัวเอง
ในขณะที่เพื่อนๆกำลังพูดคุยกันเฮฮาภายในห้องพักผู้ป่วย
นิชคุณที่ยืนอยู่ข้างนอกก็กำลังขวัญเสีย และยังคงจิตตกเรื่องกลิ่นตัวของเค้า
"คุณฮยองรู้ไหมครับว่าตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่ไหน" หมีชานก้มหน้าลงมาถามรุ่นพี่ของเค้า นิชคุณหลุดจากภวังค์
"คุณฮยองรู้ไหมครับว่าตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่ไหน" หมีชานก้มหน้าลงมาถามรุ่นพี่ของเค้า นิชคุณหลุดจากภวังค์
"ที่ไหนเหรอ.."
รุ่นพี่ร่างเล็กเองก็ยังให้คำตอบไม่ได้ นี่มันไม่ใช่วิสัยคนหัวไวเลย
"ผมกำลังยืนอยู่กลางทุ่งข้าวโอ๊ตฮะ" หมีชานหัวเราะลำคอ
ฉีกยิ้มพร้อมให้คำตอบ
"ทุ่งข้าวโอ๊ตอะไร" นิชคุณเลิกคิ้วคิดตาม
เค้ากำลังประมวลว่าชานชองต้องการสื่ออะไร
"ตุณฮยองใช้น้ำหอมโอ๊ตมิลล์อาบแทนน้ำขนาดนี้...ผมยืนอยู่ตรงนี้
ห่างจากตัวฮยองขนาดนี้ ยังได้กลิ่นชัดเลย...ฮยองไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรอกนะครับ
ตอนนี้ฮยองกลิ่นตัวเหมือนแทคฮยองยังกับคู่เเฝดกัน"
หมียักษ์ให้กำลังใจรุ่นพี่ของเค้า
"แล้วคุณล่ะ" แทคยอนเลิกคิ้วถามมินฮยองและจุนโฮ
"คุณน่ะเหรอ..หมอนี่ประสาทจะกินเรื่องนายแพ้กลิ่นน้ำหอมของนัมจูมากเลยล่ะ"
มินจุนฮยองพูดเสียงเครียด
"...เรื่องสำคัญแบบนี้แทคฮยองควรบอกพวกเราสิ...เพราะฮยองไม่ยอมบอก...มันถึงได้เป็นแบบนี้ไง...เกิดคุณฮยองช็อคตายขึ้นมาจะว่ายังไง....อันที่จริงผมก็เกือบหัวใจวายตายแล้วเหมือนกันนะ"
อีจุนโฮดุรุ่นพี่ของตน
"คุณเป็นอะไร!!" แทคยอนขัดขึ้นมาทันที
"แพนิคแล้วก็ดูเหมือนจะหอบ...แต่ก็ดีขึ้นแล้วนะ
...หมอเค้าก็ให้ยาแก้แพนิคกับยาพ่นมา...นายอยู่กับคุณก็ช่วยเช็คเรื่องยาพ่นด้วย
ควรให้มีติดตัวไว้นะ" มินจุนฮยองตอบพร้อมให้คำแนะนำ
"เอาจริงๆปัญหาเรื่องแพ้น้ำหอมอะไรพวกนี้ผมก็ไม่รู้นะ แต่ก่อนตอนปี2
ก็มีเจ็บคอบ้าง แสบจมูกบ้าง หายใจไม่ค่อยออกบ้างก็คิดว่าคงป่วยเอง
ไม่เคยคิดไปถึงเรื่องแพ้น้ำหอมอะไรนี่เลย" แทคยอนนั่งหน้าสลด
"คุณนี่อ่า!!...จะไม่เข้ามาเหรอ!!"แทคยอนเปลี่ยนเรื่องร้องเรียกชื่อแฟนหนุ่ม
เสียงคุ้นหูดังมาจากภายในห้องพัก คนถูกเรียกชื่อสะดุ้งโหยง มือ2ข้างของเค้าสั่นระริก หัวใจของเค้าลงไปเต้นที่ตาตุ่ม
เสียงคุ้นหูดังมาจากภายในห้องพัก คนถูกเรียกชื่อสะดุ้งโหยง มือ2ข้างของเค้าสั่นระริก หัวใจของเค้าลงไปเต้นที่ตาตุ่ม
"คุณฮยอง
ผมบอกคุณฮยองแล้วไงครับว่ากลิ่นตัวคุณฮยองไม่มีกลิ่นของนัมจูนูน่าเหลืออยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้คุณฮยองเลิกกังวลได้แล้วนะครับ"
หมียักษ์เลื่อนประตูห้องพัก และค่อยๆดันร่างรุ่นพี่ตัวขาวของเค้าเข้ามาในห้อง
นิชคุณขืนตัวเอง เค้ากลัวจนอยากจะกระโดดหนีหายไป
แต่หมีชานก็ลุนหลังรุ่นพี่จนของเค้าก้าวเข้ามาในห้องพักเต็มตัว
"ไม่คิดถึงแทคเหรอ ถึงไปยืนไกลขนาดนั้น"
ชายคนรักของแทคยอนผิวกายซีดราวเยื่อกระดาษ ยิ่งทำให้แทคกังวลมากขึ้น
"ขอเราอยู่กัน2คนได้ไหม"
แทคยอนขอร้องเพื่อนๆร่วมบ้าน มินจุนฮยอง จุนโฮพยักหน้าหงึกๆเข้าใจความหมาย
ทั้ง2คนลุกเดินออกไปนอกห้อง มินจุนฮยองตบบ่าเพื่อนตัวขาวเบาๆ นิชคุณสะดุ้งอีกครั้ง
เค้าคว้ามือหมีชานที่ยืนอยู่ข้างกายเค้า
"ชาน...อยู่กับฮยองก่อน...อย่าทิ้งฮยอง!!" คนพูด พูดเสียงสั่น
"เอาไว้พวกฮยองเลิกกันผมจะรับประโยคนี้ไว้พิจารณา...แต่ตอนนี้พวกพี่ยังไม่ได้เลิกกัน
ดังนั้นควรตกลงกันก่อน"
หมียักษ์ค่อยๆแกะนิ้วมือสีซีดออกจากมือเค้าก่อนจะติดตีนหมีชิ่งตามมินจุนฮยองและจุนฮยองออกไป
"กลัวแทคจะตายเพราะกลิ่นน้ำหอม...แต่ไม่กลัวว่าแทคจะตายเพราะขาดคุณบ้างเหรอ"
แทคยอนขยับตัว เค้าอยากลงจากเตียงแต่ยังมีสายจากเครื่องตรวจชีพจรติดอยู่ที่ตัวเค้า นิชคุณที่ตอนแรกเอาแต่ก้มหน้างุด เงยหน้าขึ้นสบตาชายคนรักเพราะโดนจี้ใจดำ
ใบหน้าที่เคยเปล่งปล่ำหม่นหมองลงจนแทคเจ็บในใจ
เค้าไม่อยากเห็นนิชคุณต้องโยนความฝันของตัวเองทิ้งเพราะเค้าอีก
ครั้งนี้เค้าจะรักษาสัญญาให้ได้
"มากอดแทคหน่อยสิ...แทคคิดถึงคุณม๊ากมากเลยนะ"
แทคยอนขอร้องแต่ชายตรงหน้าเค้ายังคงปฎิเสธ นิชคุณยิ่งนิ่งขาติดพื้น
"หรือจะให้แทคปลดสายพวกนี้แล้วลงไปหาคุณแทน..สายพวกนี้เกะกะชะมัด"
คนผิวเข้มทำท่าจะกระชากสายที่แปะตัวเค้าออก
"อย่าแทค..อย่านะ" นิชคุณรีบดิ่งตัวมาจับมือแฟนหนุ่มไว้
ก่อนที่เจ้าตัวจะจัดการกับอุปกรณ์รอบตัว
"คิดถึงจัง..แทคฝันถึงคุณด้วย..มินจุนฮยองบอกว่าคุณเปลี่ยนน้ำหอมเพื่อแทคเหรอ
กลิ่นนี้ดีจังเลย แทคชอบ"
แทคยอนคว้าหมับเข้าที่เอวคนตัวบางเค้าออกเเรงดึงคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด
ฝ่ามือใหญ่ด้านซ้ายไล้จากลำคอลงมาถึงสะโพก
มือขวาสอดเข้าใต้กลุ่มผมที่ต้นคอคนผิวขาว
ใบหน้าริมฝีปากและสันจมูกคนสีเข้มกดจูบลงบนใบหูนุ่ม
"อ๊ะ!!...กลิ่นน้ำหอมที่แทคใช้!!...คุณขโมยของใช้แทคมาใช้เหรอ!!"
แทคยอนกระซิบแซะข้างใบหูที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ
"ของคุณเอง คุณไปซื้อมาใหม่ คุณขอโทษ..คุณควรจะใส่ใจแทคมากกว่านี้" แฟนหนุ่มบ่อน้ำตาแตกเมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นร้อนแผ่ออกมาจากตัวแทคยอน ไม่เอาอีกแล้วกับการต้องสูญเสียคนรักไป ไม่ว่าจะเสียไปแบบตลอดกาล หรือแค่ต่างคนต่างไป
"ของคุณเอง คุณไปซื้อมาใหม่ คุณขอโทษ..คุณควรจะใส่ใจแทคมากกว่านี้" แฟนหนุ่มบ่อน้ำตาแตกเมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นร้อนแผ่ออกมาจากตัวแทคยอน ไม่เอาอีกแล้วกับการต้องสูญเสียคนรักไป ไม่ว่าจะเสียไปแบบตลอดกาล หรือแค่ต่างคนต่างไป
"ไม่ใช่ความผิดนายหรอกคุณ..ไม่ใช่ความผิดนายสักนิด...ว่าเเต่ทำไมถึงกลับมาเป็นโรคหอบอีก..นายเคยหายแล้วนี่"
แทคยอนติดใจเรื่องนี้
"ไม่รู้เหมือนกัน...อยู่ๆก็กลับมาเป็นอีก..."
คนในอ้อมกอดตอบกลับเสียงเบาพร้อมซุกหน้าเข้ากับต้นคอฝ้ายตรงข้าม
"นายไปตรวจสุขภาพครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่..."แทคยอนถามเพิ่มเติม
หรือเค้าควรจะหาเวลาพานิชคุณไปตรวจร่างกายสักครั้ง
"ล่าสุดก็เมื่อ3วันก่อน
หมอบอกว่าไม่อันตราย จ่ายยามา2-3อย่างเกับยาพ่น" นิชคุณตอบ ใบหน้าขาวเริ่มซุกไซร้ซอกคอสีเข้ม
'ฉันอยากจะสัมผัสนาย
ขยับเข้าไปใกล้ตัวนายช้าๆ ได้โปรดขยับเข้าาใกล้ๆฉันสิ'
"จูบได้ไหม"
ริมฝีปากอิ่มนุ่มกระซิบชิดใบหูกางๆของเจ้าแมวยักษ์
"ให้คุณจูบนะ"
นิชคุณหันมาสบตากับแทคยอน คนตัวโตพยักหน้ารับ
นิชคุณกดจูบบนริมฝีปากบางหยักได้รูปแผ่วเบ่า แทคยอนเปิดปากรับเรียวปากอิ่ม
ดวงตาดำขลับเคลื่อนคล้อยมองดูปฎิกริยาของคนรัก นิชคุณกดจูบอ่อนโยน
จูบเบาๆหยุดและจูบเบาๆอีก คนตัวหนาให้สิทธ์การเป็นผู้นำกับคนตัวเล็ก
ฝ่ามือขาวสอดขยับลูบไล้มัดกล้ามภายใต้เสื้อผ้า
ผิวกายชายคนรักชื้นเหงื่อเย็นตัดกับความร้อนของมือสีขาว นิชคุณผละตัวออกมา
ทั้งคู่สบตากันจังหวะนึง นิชคุณแตะมือลงบนแผ่นอกกว้าง แทคยอนกัดฟันกรอด
ก้มมองดูฝ่ามืออุ่นร้อนสัมผัสแผ่นอกตึงแน่นของเค้า นิ้วมือเรียวยาวควานหาจุดไวสัมผัสแต่ก็หลบเลี่ยงเส้นสายจากเครื่องมือแพทย์
"อ่า..คุณ..อ่า" แทคยอนแอ่นอกรับ
ยอดอกสีแดงบีบรัดเมื่อปลายนิ้วขาวเลื่อนมาถูไถมัน หัวใจแทคยอนเต้นแรงขึ้น
ความรู้สึกที่โหยหา สัมผัสร้อนที่คุ้นเคย คนผิวขาวกดจูบหนักรุกไล่เรียวลิ้นตนไปทั่วโพลงปากคนรัก
แทคยอนเคลิบเคลิ้มไปกับความปราถนาของตนจนลืมที่จะหยุดการล่วงล้ำ ตามข้อตกลง
มือขาวบดขยี้ติ่งไตสีแดงช่ำ
เลื่อนมือลงต่ำลงมาจรดท้องน้อยของคนบนเตียง เค้าสัมผัสได้ถึงปราการเหล็กกล้า
ณจุดกึ่งกลางตัวของแฟนหนุ่ม มือขาวไม่รอช้าที่จะขยับสอดเข้าใต้เนื้อผ้าบางเบาที่ห่อหุ้มจุดแข็งกล้าอยู่
แทคยอนสะดุ้งโหยงกับสัมผัสที่ต่างไปจากมือหนาของเค้า
"คุณ!!...หยุด...พอแล้ว"
มือใหญ่หนารวบจับข้อมือขาวดึงรั้งให้ห่างจากจุดที่ไม่ควรอยู่
"แทคก็อยากนี่...ให้คุณช่วยนะ" คนตัวกัดริมฝีปากหยักของคนตัวหนาเบาๆ
เค้าไม่ลดละความพยายามที่จะสานต่อแรงปราถนาภายในตัวเอง
"แค่จูบพอแล้วคุณ...มากกว่านี้ไม่ได้" แทคยอนส่ายหัว
เค้าต้องออกแรงยึดข้อมือขาวไว้เพราะดูเหมือนว่าชายคนรักจะไม่คิดละความพยายาม
"แทค...ให้คุณทำนะได้โปรด" สิ้นเสียงคำเว้าวอน
ชายร่างเล็กที่นั่งอยู่ที่ขอบเตียงก็ปีนป่ายขึ้นมาคร่อมตัวคนตัวหนา
นิชคุณโน้มตัวลงไถหน้าอกตึงแน่นของเค้าเข้ากับแผ่นอกคนด้านล่าง ริมผีปากอิ่มกดจูบ
ตะโปบใบหูของเจ้าแมวยักษ์ เค้าไม่ได้สนใจมือของตัวเองที่ถูกตึงไว้สักนิด
"อ่า..ซี้ด...อ่า"
คนตัวโตสะดุ้งโหยงกับการโดนรุกเร้าจุดอ่อนไหวที่ใบหู มือใหญ่หนาสิ้นไร้เรียวเเรง
ทำให้มือขาวได้รับอิสระภาพในบัดดล
นิ้วมือเรียวได้โอกาสโอบรัดรวบจุดแข็งขืนและขยับไปตามถ่วงทำนองที่อ่อนหวาน
"หยุดเดี๋ยวนี้...อย่าทำแบบนี้"
แทคยอนดิ้นหนีริมฝีปากเปียกชิ้นที่ละจากด้านบนลงมาที่ยออดอกของเค้า
เค้าพยายามออกแรงปัดป้องจุดสงวนของเค้า แต่มันไม่ง่ายเลย เค้าไม่ได้เป็นคนตัวใหญ่ที่แรงเยอะสักนิด
เค้าไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ได้เข้ายิม ไม่ได้ชกมวย
ไม่ได้เป็นแชมป์แบตมินตัน ไม่ได้ฝึกการใช้แรงกายเท่ากับชายผิวขาวที่นั่งอยู่บนตัวเค้าตอนนี้
"ให้คุณทำนะ..คุณอยากทำให้แทคมีความสุข"
ทันทีที่คนเอาแต่ใจพูดจบ ก็กดริมฝีปากลงบนปากแทคยอนอีกครั้ง
จูบหนักหน่วงราวกับจะแย่งลมหายใจไปจากคนที่เพิ่งหายป่วย
ด้านนิ้วมือเรียวยาวก็ละเลงน้ำล่อลื่นที่เอ่อออบนปลายยอดแก่นกายของคนถูกคุกคาม
"อ่า...พอเถอะ..ไม่..."
ลมหายใจของแทคยอนถี่รัวร่างกายเค้าอ่อนยวบเป็นเนยเหลว เค้าหันมองหน้ามอนิเตอร์
ความดันและอัตราการเต้นของหัวใจเค้าเพิ่มขึ้นจนจะแตะเพดานห้องพักอยู่แล้ว
ถ้ามันสูงขึ้นกว่านี้เจ้าเครื่องบ้าๆนี่อาจจะแหกปากลั่น
และหมอกับพยาบาลจะแห่กันเข้ามา
"คุณหยุด..อ๊า..อื้อ" แทคยอนครางกระเส้า
มือขาวรูดรั้งรัวเร็วอยากจะมอบความสุขหฤหรรให้ชายคนรักแต่ก็ไม่ลืมที่จะหยอกล้อกับปลายแก่นกายอวบหนาในกำมือเค้า
"ปลดปล่อยมันออกมาสิ...อย่ากั้นไว้...มีความสุขเพื่อตัวเองสิ"
ชายคนรักขยับนิ้วมือรัวแรง เค้าหวังจะปลดปล่อยความต้องการของแทคยอนที่มาจนถึงขอบฝั่งแล้ว
"อื้อ..ไม่..มะ..ไม่..ซื้ด..อ่า" แทคยอนครวญครางทั้งน้ำตา
ร่างกายเค้าคล้อยตามไปกับสัมผัสร้อนอย่างว่าง่าย แต่ใจเค้าไม่ได้ต้องการแบบนี้
ไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่ตอนนี้ ไอ้นิชคุณ!! สะโพกสอบโยกไปพร้อมกับจังหวัดการรูดรั้งของมือคนรัก..เค้ากำลังจะหลอมละลาย
ท่อนขาเค้าสั่นเกร็ง ปลายเท้าเค้าหงิกงองุ้ม
"ไม่...คุณนายต้องหยุด...แทคไม่!!...อ่ะ"
ร่างใหญ่บิดเร้ายึดเกร็งไปด้วยไฟที่ลุกโชติช่วง เค้าหยุดมันไม่ได้แล้ว
น้ำรักสีขาวพวยพุ่งล้นทะลักออกมาเต็มฝ่ามือคนเอาแต่ใจ
ติ๊ด!! ติ๊ด!!!
เสียงเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจกรีดร้องลั่น
นิชคุณสะดุ้งเฮือกหลุดออกจากภวังค์ เค้าหยุดทุกการกระทำ เค้าเงยหน้าขึ้นมองแทคยอน
ชายคนรักนอนพังพาบหอบหายใจรัว ใบหน้าตอบปะพรมด้วยหยาดเหงื่อ
ยี่วเย้าใจเค้าเกินคำบรรยายแต่ ณ เวลานี้ เค้าลืมไปว่าแทคยอนกับเค้าอยู่ในโรงพยาบาล
อยู่บนเตียงผู้ป่วย เจ้าหน้าที่พยาบาล
หมอชเว และบรรดาเพื่อนร่วมบ้านกรูกันเข้ามาในห้อง
ทุกคนผงะเป็นไก่ตาแตกกับสิ่งที่เค้ากำลังทำ เค้านอนทับบนตัวคนป่วย
เสื้อผ้าของคนป่วยถูกปลดออกโชว์เนินอกตึงแน่น มือขาวล้วงล้ำเขตแดนภายใต้เนื้อผ้าเบื้องล่าง
ใบหน้านิชคุณแดงแต่ผิวกายคนนอนใต้ตัวเค้ากับแดงราวกับมะเขือเทศที่สุกปลั่งจนเต็มที่
"กรี๊ด!!!" พยาบาลสาวร้องลั่น หมอชเวรีบปรี่เข้าปิดปากนางพยาบาลสาวไว้
เค้าเกรงว่าเสียงกรีดร้องของเจ้าหน้าที่คนนี้จะนำกองทัพนางฟ้าเทวดาชุดขาวเข้ามาเป็นสักขีพยานรักของพ่อหน้าสวย
"มะ...ไม่อยากจะเชื่อเลย!!คุณปล้ำเค้าอีกแล้ว...คุณหื่นมาจากไหนเนี่ย...แฟนคุณเพิ่งพ้นขีดอันตรายมานะ...คราวที่แล้วผมไม่พูดเพราะคิดว่าคุณคงคิดได้..แต่เห็นชัดเลยว่าคุณไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องไม่ควรทำเลย"
หมอชเวเส้นเลือดขึ้นหน้าปรี๊ดแตกว๊ากเสียงดัง
"อีกแล้วงั้นเหรอ!!" เพื่อนร่วมหอย้อนคำพูดหมอชเวพร้อมกัน
พร้อมกลืนน้ำลายเฮือก
"ขอโทษ...ลืมตัวไปหน่อย" นิชคุณก้มตัวลงซบหน้ากับหมอนข้างหัวแทคยอน
"แทค..บอกแล้วที่นี่ไม่ได้" แทคยอนยกมือขึ้นลูบหัวนิชคุณ
"แต่แทคก็มีความสุขนี่" คนตัวขาวกระซิบกระซาบข้างหูคนหูกาง
"ไม่โว้ย!! ไม่มีความสุขสักนิด" แทคยอนแยกเขี้ยวโชว์ฟันชาว
เค้าอยากจะหันไปกัดหูขาวๆที่ซบอยู่ข้างแก้มเค้า
"ไม่สุขเหรอ คามือคุณขนาดนี้" นิชคุณฉีกยิ้มล้อเลียนเจ้าแมวยักษ์
มือขาวนวดเฟ้นลูกแมวน้อยที่พ่นน้ำลายออกมาเต็มมือเค้า
"หยุดเลยพอได้แล้ว..เช็ดมือซะคุณ!!" คนตัวใหญ่อายจนอยากจะมุดดินหนี
คิดผิดคิดถูกที่ยอมปล่อยให้ชายคนรักได้สิ่งที่ต้องการ ได้คืบเอาศอกที่แท้ทรู
"ลงจากเตียงซะนิชคุณชี อย่าให้ผมต้องเรียกรปภ.มาลากตัวคุณออกไป"
หมอชเวกำหมัดเเน่นปรี๊ดแตกเมื่อเจ้าคนบนเตียงไม่ได้สนใจคำพูดเค้าก่อนหน้านี้เลย
"คุณฮยอง!!" จุนโฮ ชานชองหน้าแดง อับอายกับสิ่งที่รุ่นพี่เค้ากำลังทำ
พวกเค้าต้องเข้ามาดึงตัวนิชคุณลงจากเตียง
"ผมกลับบ้านได้แล้วใช่ไหมครับ" แทคยอนขยับจับเสื้อผ้าตัวเองเข้าหากัน
เค้าต้องแสร้งทำเป็นว่า เค้าไม่ได้กำลังอายระเบิดตัวตายกลางทุ่งข้าวโอ๊ต
"....."ชเวชีวอนตีหน้าเครียดใส่ชายบนเตียง
แต่ก็ต้องยอมเพราะคนไข้ไม่ได้มีปัญหาอะไร ร่างกายเค้าดีเยี่ยม และคงดีที่แฟนหมอนี่จะไม่พยายามมาป้วนเปี้ยนทำวอร์ดเค้าวุ่นวาย
"เชิญครับเชิญ...เพราะที่นี่ไม่ใช่ม่านรูด ไม่ใช่โรงแรม
ไม่ใช่ที่พลอดรัก...นะครับคุณผู้ชาย" หมอชเวหันมาพูดกับคนก่อเรื่อง สงสัยเค้าต้องเพิ่มดาวแดงอีก3ดวงมั้งกับผู้ชายคนนี้
"ย่า!!.."นิชคุณแทบจะสบถ
"พอเลยพอเลย!!..หยุดทำให้พวกเราอายสักที"
มินจุนฮยองของขึ้นตบหัวเพื่อนตัวขาวไป1ที
หมอชเวขอตรวจร่างกายคนไข้ก่อนกลับอีกครั้ง
เค้าอยากคุยกับแทคยอน แต่แทคยอนปิดปากเงียบ
ด้านอีกคนที่ดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างคนที่มาพร้อมเอกสารกับหมายจากทนายก็ลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้
"ไปกินบิงซูกันนะฮยอง..ดับร้อนๆ.." จุนโฮพูดพร้อมหัวเหาะคิกคัก
เค้าเดินมาควงแขนแขนพี่แมวยักษ์ และดึงตัวออกไป
"ย่าห์!!..ไอ้เด็กนี่..นั่นคนของฮยองนะ"
นิชคุณรีบวิ่งเข้าไปแย่งคนรักคืน
"อะไรกันฮยองเดี๋ยวนี้มีหวงกันแล้ว..ปกติแทคฮยองเค้าเที่ยวกับผมนะ"
อีจุนโฮเข้ามาจับมือรุ่นพี่คนสนิท
"ตอนนั้นแทคโสดนายจะเที่ยวกับเค้าเท่าไหร่ก็เรื่องของนาย...แต่ตอนนี้แทคเป็นแฟนฮยองก็ต้องเที่ยวกับฮยองสิ"
นิชคุณออกตัวว๊ากใส่รุ่นน้อง เค้าเข้ามาแย่งตัวชายคนรัก
"โอ๊ย!!..อะไรกันเนี่ยพวกนายทำตัวเป็นเด็กแย่งของเล่นกัน...ไม่ต้องแย่งกันแล้ว..ไปกันทั้งหมดนี่แหละโว๊ะ"
มินจุนฮยองปวดหัวกับเด็กๆ
"ให้ตายสิ..แทคเป็นแฟนคุณนะ ทำไมโฮต้องมานัวเนียแทคด้วย
ทำไมเด็กนั่นไม่ไปหาแฟนของตัวเองสักที!! " นิชคุณบ่นอุบ แทคยอนยิ้มแหยๆ
ยกมือเกาหัวหันไปมองเจ้าหมียักษ์ที่เดินฟังเพลงไม่สนใจใคร
ส่วนอีจุนโฮเบะปากเดินไปควงมินจุนฮยอง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
-
ตอนที่ 5 : ข้อตกลง " แทค..ตื่นแล้วเหรอ" เสียงเจื่อยแจ่วดังมาจากหน้าประตูห้องในเที่ยงของวันจันทร์ นิชคุณจะต้องเข้าเรียนคาบเช้...