เรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องเก่ามากแล้ว เรานำมาเปลี่ยนชื่อเรื่อง และอาจจะเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางส่วน บางคนอาจจะเคยอ่านจากเด็กดี และจากเวปเพจที่เราตั้งไว้ มีความเบลอสับสนหาพาสเวริด์ไม่เจอ ก็ต้องเปลี่ยนใหม่เป็นระยะๆ
ไร้ทเตอร์จะพยายามแต่งให้จบ ซึ่งจริงๆในใจฟิคเรื่องนี้มีตอนจบแล้ว เพียงแต่ไม่ได้แต่งต่อ เพราะตอนนั้นสับสนอยู่ว่าจะเป็นแทคคุณ หรือคุณแทค ในบรรดาฟิคทั้งหมดที่แต่งมาเป็นคุณแทค แต่เรื่องนี้เปิดมาเหมือนจะเข้าเค้าแทคคุณมากกว่า จะหักมุมเป็นคุณแทคก็ได้ แต่คงจะโหดสาด รัสเซียเกินกลัวจะช็อกผู้อ่านเกินไป
ไร้ทเตอร์แต่งเพื่อความสนุก เพลิดเพลินเท่านั้น
ไร้ทเตอร์ : สายดราม่า - แต่เรื่องนี้ก็มีกุ๊กกิ๊กน่ารักบ้างนะ
(แมววยักษ์แทคคุณ/ปู่แดกูอูยอง/หมียักษ์ชานซองกับคุณพี่ขี้เหวี่ยงจุนโฮ)
ตอนที่1 : เรื่องซุบซิบของท็อปมหาลัย
"อ๊า...น่ารักอ่า" เสียงแหบซ่านของหญิงสาวผิวขาวผมดัดลอนหนาสีทองคนนึงดังขึ้นท่ามกลางเสียงซ่อกแซก ณ โรงอาหารรวมของมหาลัยชื่อดังย่านอันนัม มหาลัยนี้เป็นมหาลัยชื่อดังติดท็อปไฟล์ของประเทศมีหลายคณะที่โด่งดังมากๆ คนที่สอบเข้าที่นี่ได้ต้องเก่งมีมันสมองหรือเป็นลูกคุณหนูของตระกลูต่างๆเพราะค่าเทอมของมหาลัยวิทยาลัยนี้โหดแสนโหด
"ใครอีก!!" เพื่อนสาวผมดำยาวอีกคนทักขึ้นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายในขณะที่เธอกำลังหมกหมุ่นอยู่กับกองหนังสือเรียนตรงหน้า
"ผิวขาว ปากแดง ตากลม..ปลายจมูกโด่งเชิดรั้น....หล่อแบบเทพบุตร..นิสัยก็ดี...เฮ้อ..." เพื่อนสาวคนเดิมพรรณนาถึงบุคคลปริศนาด้วยท่าทีเคลิบเคลิ้มพร้อมยกนิ้วขึ้นมาตีกรอบรอบคนที่เธอกำลังกล่าวถึง
" หึ..คงได้แอ้ม..หล่อ..รวย..นิสัยดี..แต่โดนแฟนทิ้ง..นี่คนที่เท่าไหร่แล้ว" เพื่อนสาวผมสั้นอีกคนที่กำลังกินข้าวเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนแคระเช่นกัน เธอเป็นหนึ่งในเด็กที่หลุดมาจากโรงเรียนม.ปลายเดียวกับคนที่เพื่อนเธอกล่าวถึง
"โดนแฟนทิ้งหรา!!.."เจสสิก้าดวงตาเบิกโพลงเหมือนเธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
"เลิกกันแล้วเหรอ..อย่ามามั่วสิ...คบกันมาตั้ง2ปีนะ..แถมวันนั้นยังสวีทกันอยู่เลย"เจสสิก้าพ่นคำพูดออกมาราวกับเธอเป็นสโตกเกอร์ของท็อปมหาลัย
"คนอื่นในกลุ่มก็น่าสนนะ ทำไมเธอไม่มองบ้างล่ะหึ..พ่อหน้าสวยคนนั้นน่ะ เธอเลิกหวังเหอะ..เป็นคนดีเกิ๊น..ใครได้เป็นแฟนคงเหนื่อยใจ..ฉันเห็นยัยนัมจูแล้วสงสารแทนเลย" เฟยหญิงสาวผมดำขลับที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับกองหนังสือเปรยขึ้น เธอปรายตาไปที่กลุ่มท็อปมหาลัยแล้วหมุนคอกลับมาอย่างรวดเร็ว
"ย่ะ!!..ตาบ้านั่นหูผีอีกล่ะ" เฟยอุทานหน้าตาตื่น
"เป็นอะไรยะ!!..ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย" เจสสิก้าถามเฟยทันทีที่เห็นท่าทางของเพื่อนราวกับกระต่ายตื่นตูม
"ตาบ้านั่น....ชิ...ส่งยิ้มมาอีกล่ะ...คิดว่าฉันมองนายรึไง!! " เฟยพ่นลมออกทางจมูกด้วยท่าทางดิบเถื่อนขัดกับหน้าตาสะสวยราวนางฟ้าของเธอ
"ตาอ๊คใช่ป่ะ...หมอนั่นคงคิดว่าตัวเองอยู่กลุ่มท็อปแล้วจะดังเหมือนกันมั้ง ดูหน้าตา หนวดเครา เสื้อผ้า แว่น ทรงผม โอ้ยสุดจะบรรยาย การมีเพื่อนเป็นเจ้าพ่อแฟชั่นไม่ได้ทำให้หมอนั่นซึมซับ หรือเรียนรู้อะไรขึ้นมาบ้างเลยเหรอไงเนี่ย++" เจสสิก้าค่อนแคระเพื่อนตัวสูงใหญ่ที่สุดในกลุ่มท็อปมหาลัยแถมยังเป็นคนที่ทำคะแนนดีที่สุดในกลุ่มทุกปีทุกเทอม
"แล้วคนอื่นล่ะ.." ซูจีถามเพื่อนซี้ทั้ง2คนที่กำลังซุบซิปนินทาผู้ชายโต๊ะไม่ห่างจากพวกเธอมากนัก
"ไม่รู้สิ..ทำไมฉันต้องสนใจด้วยล่ะ" เจสสิก้ามองเห็นแต่เทพบรุษของเธอ เธอทำราวกับคนอื่นไม่มีตัวตน
"ฉันว่าพวกนั้นแปลกๆ แต่ช่างเถอะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรานี่" เฟยเบ้ปากเมื่อพูดถึงกลุ่มท็อปทุกที เพราะเธอพยายามทำคะแนนให้ดีติดกลุ่มอันดับต้นๆไม่ได้สักเทอม
"ฉันแค่สงสัยว่าทำไมคนที่นิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวถึงได้ไปร่วมหัวลงโรงเช่าบ้านอยู่ด้วยกันได้นะ" จีถามเพื่อนอย่างสงสัย
"...ก็เพราะเทพบุตรของเธอรวยมั้ง" มีนหญิงสาวผมสั้นพูดขึ้นหลังจากนั่งฟังเพื่อนๆเม้าส์มอยมานาน
"คุณฮยองฟังเพลงนี้สิครับ" เสียงเด็กน้อยแก้มบวมเจื่อยแจ้วขึ้นข้างตัวคนผิวขาวปากแดงที่ถูกนินทาเมื่อครู่
"ไหนเพลงอะไร" เสียงหวานหยดเอ่ยขึ้นหลังจากรุ่นน้องของตนเรียก นิชคุณหยิบหูฟังจากมือรุ่นน้องขึ้นมาและบรรจงกดเข้ากับช่องหูตัวเองเบาๆ เสียงดนตรีดังขึ้น นิชคุณส่งยิ้มบางๆให้รุ่นน้อง และเริ่มดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงเพราะๆ
listen, You were really beautiful. When you smiled, I was blinded by the light
ฟังนะ คุณน่ะสวยจริงๆ ตอนที่คุณยิ้ม ผมตาบอดด้วยแสงสว่าง
To that bright smile, I lost track of all thought
จากรอยยิ้มที่สดใสนั้น ผมลืมคิดถึงทุกสิ่ง
Oh~miss you baby, I really miss you so much
โอ้ คิดถึงคุณที่รัก ผมคิดถึงคุณมากจริงๆ
No can understand me, and also as of now
ไม่เข้าใจตัวเอง และเหมือนกับตอนนี้ด้วย
why to this day I still have a deep attachment to you
ทำไมวันนี้ ผมยังคงผูกพันธ์กับคุณอย่างเหนียวแน่น
"เพราะดีว่าไหมครับ...ผมสงสัยมากเลยว่านักแต่งเพลงท่านไหนแต่งเพลงนี้...ค่ายไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อนักแต่งเพลงอ่ะฮยอง" จางอูยองพูดพร้อมยิ้มหวานให้คนอายุมากกว่า
"เพลงไรอ่า..ฟังด้วยสิ" เสียงพี่คนโตสุดร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจและสีหน้าท่าทางตลกๆที่เค้าทำเป็นประจำ พี่ใหญ่แย่งสายหูฟังมาจากหูนิชคุณ เมื่อเค้าได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นรอยยิ้มที่เค้าทำเป็นประจำก็จางหายไป
‘ฉันหวังว่านายจะเข้าใจมันนะคุณ’ มินจุนส่งสายหูฟังคืนให้น้องเล็กแก้มป่องทันที
"only you ครับมินฮยอง" อูยองตอบพี่ใหญ่แต่สายตาเค้าจับจ้องแต่สีหน้าคนข้างกายที่ได้แต่ยิ้มบางๆ
"ใช่ฮยองรู้จักเพลงนี้ เพราะมากเลยนะ..เนื้อเพลงดีด้วย" มินจุนลดเสียงลงพลางเสมองไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจตัวเอง
".. ........." อีจุนโฮปรายตามองอูยองเล็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นมองควานชานชองที่นั่งอ่านหนังสือพิงหลังกับไหล่คนตัวใหญ่ที่เอาแต่นอน
"ผมกลับแล้วนะ..ฮยองไปเหอะ"จุนโฮพูดขึ้น เค้ายกมืออวบๆของตัวเองสะกิดแขนคนตัวใหญ่ที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องหลายที
"อ๊ะ...กลับแล้วเหรอ..ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอโฮ" นิชคุณทักขึ้นเมื่อรุ่นน้องอยู่ๆก็จะกลับหอก่อนอีกแล้ว
"ผมว่าผมพาแทคฮยองกลับไปนอนบ้านก่อนดีกว่าครับ" จุนโฮเอาแทคยอนมาเป็นข้ออ้างในการหลบหนีจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ ชานชองไม่เคยสนใจเค้าเลย มินฮยองก็ทำท่าเหมือนโลกจะแตก เจ้าเด็กแก้มป่องนั่นก็เรียกร้องความสนใจไม่เลิก แทคฮยองก็หนีความจริงไปเรื่อย คนที่น่าปวดหัวมากที่สุดคือ คุณฮยอง หมอนี่ซื่อหรือโง่กันแน่นะถึงได้มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง
อีจุนโฮเป็นคนหงุดหงิดง่าย เจ้าอารมณ์ เค้าไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยากวุ่นวาย ไม่เป็นไปตามสิ่งที่ตนเองคิดไว้
"อืม...กลับดีๆนะ" นิชคุณยิ้มรับพร้อมมองหน้าจุนโฮและส่ายหัวให้กับเพื่อนตัวโตที่วันๆ เอาเแต่นอน หมอนี่ยืนหลับได้ นั่งหลับได้ นอนหลับได้ทุกที่ เจ้าคนที่ถูกนิชคุณรำพึงถึงลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารในสภาพเบลอเอ๋อ คนขี้เซาเดินเซไปเซมา
"ฮยองเดินดีๆสิ...ย่ะ!!...ไปทางนู้นเลย" จุนโฮพลักแทคยอนให้เดินห่างๆเค้า
"....ยืมไหล่หน่อยไม่ได้เหรอ..แขนนายนิ่มอย่างกะขนนก" แทคยอนยิ้มอบอุ่นให้รุ่นน้อง
“ขนนกบ้านฮยองสิ..โอ้ยบอกให้เดินดีๆ” จุนโฮโวยวายไปตลอดทางจนเด็กคณะอื่นหันมองตามตลอดทางเดิน
"2คนนั้นสนิทกันดีนะครับว่าไหม..กลับด้วยกันทุกวันเลย" อูยองเปรยขึ้น
"อืมดีแล้วนี่ แทคมันจะได้มีคนพากลับหอ" มินจุนพี่คนโตสุดในกลุ่มพูดขึ้น เค้าเหลือบตาดูมักเน่ในกลุ่มที่ยังคงนั่งอ่านหนังสือไม่สนใจใครคนรอบข้าง
'พวกนายนี่นะหัดรู้ตัวเร็วๆหน่อยสิ...' มินจุนเปรยอย่างเหนื่อยใจ
"แทคฮยองแวะไดโซะแปปนึงดิ" จุนโฮสะกิดแขนรุ่นพี่ตัวโตที่ทำท่าทางเหมือนทำของหาย แทคยอนที่กำลังเดินกลับหออยู่ๆก็หยุดเดินเเละเริ่มตบกระเป๋าเสื้อ กางเกง และควานหาอะไรสักอย่าง
"นายซื้อของไปก่อนเลย ฮยองจะไปธุระ" แทคยอนพูดจบก็หันหลังกลับ เค้าสอดส่องสายตาไปตามถนน
"ฮยองจะไปไหนอ่า..โธ๋!!ทิ้งกันเฉยเลยน้า" จุนโฮตะโกนถามตามหลังรุ่นพี่ของเค้าเดินห่างออกไป
"แทคล่ะ" มินจุนกลับมาบ้านและไม่เห็นแทคยอนในบ้าน
"ไปธุระครับมินฮยอง แทคฮยองบอกว่าจะกลับมืดๆ" จุนโฮตอบพร้อมบิดตัวไปมาหลังจากนั่งเล่นเกมส์อยู่หน้าจอคอมตั้งแต่บ่ายแก่ๆ เค้าโทรหาแทคยอนเมื่อรุ่นพี่ของเค้าหายหัวไปนานผิดปกติ และพี่แมวประจำบ้านก็ให้คำตอบว่าติดธุระอาจจะกลับดึก จุนโฮถามเหตุผล แต่ปลายสายกลับเงียบใส่ก่อนจะวางสายไป จุนโฮพยายามโทรอีกหลายครั้งแต่รุ่นพี่เค้าก็ไม่รับสายอีกเลย
"โอ๊ะ...ขอบใจมากนะเด็กน้อย" มินจุนตบไหล่จุนโฮเบาๆก่อนจะเดินหายลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อดูว่าเพื่อนตัวขาวทำอะไรให้กินวันนี้บ้าง
“คุณ..คืนนี้นายทำอะไรกินอ่า” มินจุนเดินไปกอดคอเพื่อนตัวขาวที่อายุน้อยกว่าเค้านิดหน่อย
นิชคุณ แทคยอน มินจุนเรียนชั้นเดียวกัน แต่เรียนคนละคณะ 3คนนี้สนิทกันตั้งแต่วันแรกของการเข้าเรียนเพราะความเปิ่นของมินจุนทำให้พวกเค้าต้องมาร่วมหัวจมท้ายด้วยกันที่ห้องพักขนาดเล็กแต่ค่าเช่าบ้านไม่เล็กตาม และเป็นความโชคดีของมินจุนที่ครอบครัวนิชคุณรวยมาก เค้าสามารถผ่อนจ่ายค่าเช่าห้องให้นิชคุณล่าช้ากว่ากำหนดได้โดยที่เพื่อนตัวขาวไม่เคยทวงเงินสักครั้ง
"ผมยังไม่ได้คิดเลย..มื้อดึกกินอะไรดี..ต้องทำเพื่อแทคด้วยไหม" นิชคุณถามขึ้น เพราะวันศุกร์เป็นเวรทำอาหารของเค้า เค้าต้องออกแบบเมนูอาหารและกระปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับจำนวนเพื่อนร่วมบ้านทุกคน
"แทคฮยอง..ปิดมือถือครับ" อีจุนโฮตะโกนตอบจากห้องนั่งเล่น เค้าโทรตามแทคยอนไม่ต่ำกว่า10ครั้งตั้งแต่เห็นนิชคุณเดินเข้าห้องครัว
“นายก็ทำเพื่อแทคไว้สักนิดสิ..นะ..หมอนั่นอาจจะหิวกลางดึกก็ได้นะ” มินจุนกอดคอเพื่อนแน่นๆอีกครั้งก่อนจะผละตัวออกจากห้องครัวกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง วันนี้มินจุนเคมีการบ้านวิชาภาษาอังกฤษกองมหึมา เค้ากะจะให้เพื่อนตัวขาวช่วยแต่ก็เกรงใจเพราะช่วงนี้นิชคุณดูเบื่อโลกมาก ตั้งแต่เพื่อนซี้เค้าเลิกกับแฟน หมอนี่ก็ดูห่อเหี่ยวไปทุกอย่าง แต่ทำไงได้ล่ะก็ดูเหมือนเจ้าตัวยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าถูกบอกเลิกเพราะอะไร ดังนั้นการบ้านของเค้าช่วงนี้เลยต้องพึ่งพารูมเมทอัจฉริยะซะเป็นส่วนใหญ่ จนเจ้าเด็กท็อปมหาลัยดูจะเปื่อยลงทุกวันเพราะนอนไม่พอ แต่จะให้เค้าทำอะไรได้ล่ะ มินจุนเคไม่ใช่เด็กหัวดีนี่ เค้าต้องมีติวเตอร์เพื่อที่จะสอบให้ผ่านในคะแนนสูงเพื่อขอทุนมหาลัย และโชคดีมากที่อย่างน้อยเจ้าท็อปมหาลัยก็ไม่หยิ่งเกินไปที่จะไม่แคร์เพื่อนสนิทแบบเค้า
"ทำกินกันก่อนเถอะครับ ได้โปรด" ชานชองขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แต่เค้ายังคงสนใจหนังสือภาษาญี่ปุ่นในมือ ขณะที่นอนอยู่บนโซฟาห้องรับแขกใกล้ๆกับจุนโฮ
“กระเพาะนายนี่ใหญ่พอๆกับตัวนายแน่เลยชาน ...กินข้าวช้าหน่อยไม่ตายหรอก ว่าแต่นายอ่านมันออกรึไง...ฉันเห็นนายก้มหน้าติดไอหนังสือเล่มนี้มาเป็นเดือนแล้วนะ” จุนโฮถามชานชองอย่างค่อนแคระ มักเน่ในกลุ่มเค้าชอบทำตัวลอยไปลอยมาไม่ค่อยสนใจอะไรใครเลยนอกจากหนังสือ
“เพราะอ่านไม่ออกถึงต้องพยายามอ่านไงครับ...แฟนคลับให้ผมมา..ถ้าผมไม่อ่านเค้าคงเสียใจแย่”ชานชองตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“นายมีแฟนคลับด้วยเหรอ...ใครน่ะ..ไปทำอีท่าไหนถึงฮอตได้ขนาดนี้”จุนโฮเปลี่ยนท่าทีทีขึ้นมาทันควัน เค้ารู้สึกถึงอะไรบางอย่างในร่างกายเค้ามันส่งเสียงไม่พอใจ
“แม่ส่งมาให้บอกว่า...ลูกสาวเพื่อนเค้าบอกว่ามันเป็นหนังสือที่ดี”ชานชองตอบกลับ
"ฟังดูเหมือนแม่นายพยายามจับคู่ให้นายกับลูกสาวเพื่อนเค้าเลยนะ”
จุนโฮปล่อยขำ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่หัวใจเค้ามันเต้นแรงและเค้ากำลังรู้สึกแปลกๆ
“เธอสวยแล้วก็นิสัยดี..บางทีอาจจะเป็นแฟนที่ดีก็ได้” ชานชองตอบกลับด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
“ชิส์!!...ไม่คุยด้วยแล้ว”จุนโฮไม่พอใจในคำตอบของมักเน่เอามากๆ หมอนี่ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของเค้าเลยสักนิด สักนิดก็ไม่มี อีจุนโฮโยนจอยเกมส์ในมือทิ้งใส่ท้องมักเน่อย่างแรงจนดูเหมือนจงใจปาใส่มากกว่า เค้าลุกขึ้นและเดินกระแทกเท้าปึงปังเข้าไปในห้องนอนตัวเองและเหวี่ยวประตูปิดเต็มแรง
"....." ชานชองหยิบของที่อยู่บนหน้าท้องเค้าไปวางที่โต๊ะคอม น้องหมีประจำบ้านไม่สนใจกับอาการเหวี่ยงวีนของชายร่างอวบที่เพิ่งแสดงมารยาทแย่ๆใส่เค้า
‘ไอเด็กนิสัยไม่ดี..คอยดูนะสักวันฉันจะแก้แค้นนาย’ อีจุนโฮบ่นพึมพำคนเดียว
นิชคุณเดินออกจากครัวเพื่อไปหามินจุนที่ห้อง เค้ารู้สึกเบื่อเหมือนโลกทั้งใบเป็นสีดำ ไม่มีแสงสว่างไม่มีความสุข ไม่มีเสียงหัวเราะ เค้ารู้สึกเหมือนยืนอยู่ก้นหลุมดำที่ไม่มีใครสักคนหย่อนเชือกลงมาช่วยเค้า
"ฝนตก...สั่งอาหารมากินเถอะ...ไม่อยากทำแล้ว" นิชคุณบ่นงึมงำใส่มินจุน เค้าไม่รอฟังคำตอบจากเจ้าของห้องสักกระติ๊ด เค้าปล่อยให้มินจุนทำหน้าเหว๋อใส่ เพราะตาแก่แดกูกำลังจะออกความเห็น แต่นิชคุณเดินออกจากห้องเค้าไปแล้ว นิชคุณกลับไปที่ห้องนอนตัวเองเค้าพบจุนโฮนั่งหน้าหงิกเอาหมอนฟาดตุ๊กตาไม่หยุด
“เป็นอะไรอะโฮ...” นิชคุณเลิกคิ้วมองจุนโฮอย่างสงสัย เด็กบ้านนี้มักมีพฤติกรรมแปลกๆ
“เปล่าครับคุณฮยอง”จุนโฮตอบแบบเสียงขึ้นจมูกแต่มือยังคงทำสิ่งที่ทำอยู่
“นายดูเหมือน..เออ...โกรธใครมาเลย”นิชคุณถามต่อ
“ไม่มีอะไรหรอกฮยอง..ว่าแต่ฮยองเหอะไม่ทำข้าวให้พวกเรากินเหรอ” จุนโฮถามกลับใบหน้าเค้ายังคงหงิกงอ
“สั่งมากินเถอะ..พวกนายอยากกินอะไรจดใส่กระดาษมาเลยนะ..ฝากบอกคนอื่นด้วย..ฮยองขออาบน้ำแปปนึง” นิชคุณพูดจบก็ตรงไปที่ตู้เส้อผ้า เค้าคว้าผ้าขนหนูเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนและเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
เสียงประตูรั้วหน้าบ้านเปิดดังเอี๊ยด เหล่าเด็กๆที่นั่งภายในบ้านคาดเดาได้ทันทีว่าใครคือผู้มาเยือนกลางดึกเช่นนี้
“แทคฮยองหรือโจรเนี่ย...ทำไมไม่เข้ามาสักทีเดี๋ยวผมออกไปดูดีกว่า” จุนโฮพูดขึ้นและกำลังจะลุกขึ้นจากโต๊ะโคนัตซึที่เพื่อนแม่ของมักเน่ส่งมาให้เป็นของขวัญปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว ถึงมันจะมีขนาดเล็กแต่พวกเด็กๆก็แออัดยัดขากันเข้าไปได้หมดทุกคน
"โอ๊ะ!!ทำไมเปียกยังกะลูกหมาตกน้ำแบบนั้นล่ะ" มินจุนถามขณะจ้องมองเสื้อผ้าหน้าผมของเพื่อนตัวใหญ่
"กลับดึกเชียว...ไปไหนมาครับแทคฮยอง....ว่ายน้ำกลางดึกมารึฮะ" ควานชานชองกระโดดตัวลอย รีบตรงดิ่งเข้าไปหารุ่นพี่ของตน ทั้งที่ปกติหาได้ยากมากที่มักเน่จะแสดงความห่วงใยกับใครในบ้าน
"..ไปฟิตเนสมา..ชาน..ฮยองโอเคดี..นายกลับไปกินข้าวต่อเถอะ" แทคยอนพูดจบก็เดินสะโหลสะเหลไปทางห้องนอนตัวเอง
"เหรอ..งั้นไปอาบน้ำก่อนสิ...เดี๋ยวฉันเก็บส่วนของนายไว้ให้" มินจุนตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และหันกับมากินข้าวต่อ
"สภาพนั้นยังกินไหวเหรอ" จุนโฮขัดขึ้น
"สภาพนั้นยังกินไหวเหรอ" จุนโฮขัดขึ้น
" คืนเดียวไม่เป็นไรหรอก" มินจุนตอบ
"หมอนั่นดูไม่เหมือนเหนื่อยจากฟิตเนสเลย..ดูเหมือนเมาตกถังเหล้ามามากกว่า" นิชคุณเปรยขึ้ยมา
"พี่แทคเนี่ยต่อให้ตกถังเหล้าคงไม่เมาหรอก...คนเมาที่ดูน่าห่วงที่สุดคงเป็นฮยองเองมากกว่า" จุนโฮแซวนิชคุณ
"พูดได้ดีโฮ" คิมฮยองเสริมติดตลก
"พวกเเก้วเดียวหลับแบบนายมีสิทธ์พูดแบบนั้นด้วยเหรอ" อูยองที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้นเสริมขัดขึ้นมา
"อะไรของนาย!!..." จุนโฮหัวเสียทันที
"หยุด!!...ถ้าไม่หยุดก็ออกไปหากินเองข้างนอกนะ" นิชคุณเบรคศึกพี่น้องร่วมบ้านก่อนที่มันจะบานปลาย
ในขณะที่เหล่าเด็กมหาลัยจัดการกินข้าวกินปลากันเรียบร้อยก็แยกย้ายกันไปตามที่ตามทางของตัวเอง จุนโฮ อูยอง นิชคุณนอนห้องเดียวกันเพราะ3คนนี้รักความสะอาดมากเหมาะที่จะอยู่ด้วยกัน ในขณะที่ชานชองชอบนอนพื้นเค้าเลยออกมานอนตีพุงที่ห้องนั่งเล่นทุกวัน ส่วนแทคยอนและและมินจุนเคนอนห้องเดียวกัน
เมื่อเวลาค่อยๆล่วงเลยเข้าสู่ความมืดยามวิกาล มินจุนเคที่ได้แต่พยายามทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษคนเดียวก็เอ่ะใจขึ้น ถึงแม้เค้าจะเปิดเพลงคลอเบาๆไประหว่างทำการบ้าน เค้าก็ยังรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในห้องตัวเอง
"หนาว" เสียงคนบนเตียงบ่นงึมงำๆอยู่ด้านหลังโต๊ะอ่านหนังสือของมินจุน
"แทคเป็นอะไรง่า" มินจุนรีบหันกลับมาดูเพื่อนทันที่ เจ้าเด็กท็อปนอนตัวแดงกระสับกระส่ายไปมา
"...หนาว.." แทคยอนกัดฟันหน้าจนได้ยินเสียงกึ้ดๆ ดังเป็นระยะ
"โอ๊ะ..นายมีไข้นะ..อ๋าทำไงดีนะ.ฮยองไม่มียาด้วยสิ." มินจุนเริ่มวิตกอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเค้าไม่ได้อยู่กับแทคแค่2คนนี่นา
พี่ชายคนโตรีบวิ่งออกจากห้องตัวเองไปหยุดที่หน้าประตูห้องน้องๆทันที และไม่มีการเคาะประตูแต่อย่างใดเพราะมินจุนกำลังร้อนรนเสียมากไปจนลืมเรื่องมารยาทพื้นฐานที่ควรมีไปสนิทใจ
"พวกนายใครมียาแก้ไข้บ้าง!!" มินจุนร้องถามเมื่อเค้าพรวดพราดเปิดประตูเข้ามาในห้องของเหล่าเด็กๆที่กำลังเตรียมตัวเข้านอน
".เหว๋อ!!.ตกใจหมดฮยอง..เคาะประตูสักหน่อยก็ดีนะครับ” อูยองร้องขึ้นพร้อมเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรง
“เอาไปทำไรอะไรอะฮยอง" จุนโฮเงยหน้าขึ้นจากหมอนในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
"แทคไข้ขึ้นอ่ะ" มินจุนพูดเสียงดังด้วยท่าทีวิตกจริต
"โอ๊ะ!!..คุณมียาครับ..ฮยองรอแปปนะ" นิชคุณลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่โต๊ะของเค้า เจ้าชายไทยรื้อๆค้นๆหายาสามัญประจำบ้านที่พ่อแม่เค้ายัดใส่กล่องส่งมาให้ทุกเดือน
"เดี๋ยวฮยองเอาน้ำไปเช็ดตัวด้วย..นายรอหน้าห้องก็ได้เดี๋ยวติดกันหมดพอดี" มินจุนพูดกับนิชคุณ
"ไม่เป็นไรครับผมแข็งแรงดี" นิชคุณคว้ากล่องยาเจ้าปัญหามาทั้งกล่องเพราะเค้าอยากให้แน่ใจว่า แทคไม่ได้ต้องการแค่ยาลดไข้อย่างเดียวจริงๆ
"พวกนายไม่ต้องเข้าไปนะ.." นิชคุณเตือนน้องๆ
"คุณฮยองทำอย่างกับแทคฮยองเป็นตัวเชื้อโรคเลย" ควานชานชองโผ่ลมาข้างหน้าประตูทำเอานิชคุณผวาเฮือก
“ย่ะ..หมีนายทำฮยองตกใจหมด..กลับไปนอนซะเด็กดี” นิชคุณตบบ่าชานชองเบาๆ
"เชื่อฟังดีๆซะ..ไม่งั้นจะไล่ไปนอนนอกบ้านให้หมด" นิชคุณแยกเขี้ยว
นิชคุณค่อยๆเปิดประตูห้องนอนแทคยอนเบาที่สุดเค้าหวังว่าจะไม่เป็นการรบกวนคนไข้ขึ้น แสงสว่างภายในห้องสว่างไม่มากนักอาจเพราะมินจุนเพื่อนของเค้าเปิดโคมไฟดวงเดียวที่โต๊ะทำงาน นิชคุณมองไปที่เตียงนอนเค้าเห็นคนร่างใหญ่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มพื้นหนาของตน ช่างน่าขันนักที่นานๆเค้าจะได้เห็นเจ้าแมวยักย์ดูน่าสงสารถึงเพียงนี้ แทคยอนถึงจะไม่ใช่นักกีฬาแต่เค้าก็สุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอดเรียกได้ว่าเป็นเด็กสุขภาพดีมากทีเดียว แล้วดูวันนี้สิเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าแมวตัวนี้กันนะ มันคงเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่เปียกม่อลอกมอแลกตอนเดินเข้าบ้านมาแน่ เจ้าเพื่อนตัวใหญ่ของเค้าไปทำอะไรนอกบ้านยามวิกาลกันแน่
"นายนี่นะ..ไปทำอะไรมาก็ไม่เคยบอกใคร..แล้วดูสิ..มาป่วยแบบนี้อีก" นิชคุณค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนอนของแทคยอนทีละเม็ดช้าๆเพื่อไม่ให้เพื่อนตัวใหญ่ตื่นจากฝันร้าย เค้าค่อยๆประคองหลังเพื่อนขึ้นช้าๆ ตัวแทคยอนถูกยกตัวขึ้นเบาๆ นิชคุณสามารถถอดเสื้อออกจากตัวแทคยอนได้สำเร็จ คนผิวขาวค่อยๆปล่อยตัวเพื่อนซี้ลงบนที่ฟูกนอนให้นุ่มนวลมากเท่าที่ทำได้ จากนั้นเค้าก็จัดการหยิบผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆมาบรรจงเช็ดตัวให้เจ้าแมวตัวแดงที่เหงื่อแตกไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด
"คุณไปนอนเถอะเดียวฮยองดูแลต่อเอง" มินจุนลากฟูกนอนรับแขกออกมาวางในห้องนอนเค้าให้เพื่อนตัวขาวได้พักผ่อนตรงมุมห้อง เค้าไม่อยากให้เชื้อแพ่กระจายหากนิชคุณกลับไปนอนที่ห้องเด็กๆ
"ใกล้เสร็จแล้วครับ..ฮยองไปทำการบ้าน..แล้วเข้านอนเลยดีกว่าครับ.เดี๋ยวคุณดูแทคให้คืนนี้" นิชคุณยิ้มบางๆให้เพื่อนที่แก่เดือนกว่า
นิชคุณเช็ดตัวให้เพื่อนตัวโตทั้งตัว ร่วมทั้งพยายามปลุกให้แทคตื่นมากินยา ชายหนุ่มบนเตียงสะลึมสะลือลุกจากเตียงด้วยสภาพไม่ต่างจากซากศพเท่าไหร่นัก นิ้วมือเรียวยาวควานหาแว่นตาบนเตียงไปทั่ว ชายหนุ่มพยายามพลิกตัวเพื่อหาแว่นตาของเค้าซ้ำอีก
“..เอามือมา” นิชคุณพูดจบก็ดึงมือแทคยอนมา เค้าหยิบเม็ดยาใส่มือแทคยอนเบาๆ
“กินยาลดไข้ซะ..นายไข้สูงมากเลย” นิชคุณพูดกับเพื่อนที่รับยาไปแต่ยังคงนั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหว
มือเรียวยาวพยายามส่งยาเข้าปากตัวเอง แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าปากตัวเองอยู่ไหน แทคยอนย่นคิ้วด้วยท่าทางหงุดหงิด เค้ามองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเองด้วยซ้ำ
“นายทำอะไรอะ...หาอะไรอยู่” นิชคุณเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเห็นมือใหญ่ขยับไปทางซ้ายทีขวาที
“แว่น..ฮยองเห็นแว่นผมไหม” แทคยอนวางยาลงกับเตียงนอนและ ใช้มือเปะปะไปทั่ว เค้าเริ่มขยับตัวมากขึ้นเพื่อนควานหาแว่นตา
“คุณ!!..ไอ้แทคมันมองไม่เห็นนายหยิบแว่นส่งให้มันที” มินจุนได้ยินเสียงแทคพูดขึ้นขณะที่เค้ากำลังจะหลับ การบ้านของเค้าเสร็จไปเพียงครึ่งเดียวนอกนั้นเค้าทำไม่ได้เค้าจึงตัดสินใจว่าจะหยุดทำแค่ที่ทำได้ และเข้านอนให้เร็วที่สุดเพื่อผลัดเวรกับนิชคุณในการเฝ้าไข้แทค
“โอ๊ะ!!...แว่นเหรอ..แปปนะแทค” คนผิวขาวรีบหยิบแว่นที่โต๊ะหัวเตียงและบรรจงใส่ลงบนหน้าแทคยอน
“กินยาซะแทค”นิชคุณหยิบยาที่เตียงส่งให้แทคยอนอีกครั้ง คนตัวใหญ่ยอมกินยาแต่โดยดี ก่อนจะค่อยๆกระเถิบตัวลงนอนพัก
แทคยอนตื่นขึ้นกลางดึก เค้าปวดหัวน้อยลงและรู้สึกดีขึ้น แทคยอนลุกขึ้นมานั่งและรู้สึกเหมือนมีผมใครสักคนคลุมทับมือเค้าอยู่ คนผิวเข้มสะดุ้งสุดตัว เค้าชักมือตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แทคยอนหวาดผวากับเส้นผมปริศนา เนื่องจากเค้าเป็นคนขวัญอ่อนและกลัวผีที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมบ้าน นี่เค้ากำลังฝันว่าโดนผีหลอกหรือว่ามีใครมานอนในห้องเค้ารึเปล่า แต่ไอบ้านั่นต้องบ้าแน่เพราะดันเอาหัวมาเกยเตียงเค้า หรือไม่ก็เมาหลับไม่รู้เรื่อง แทคยอนยื่นมือไปที่โคมไฟหัวเตียงเค้าปรับแสงไฟให้เป็นแสงขาวก่อนเพราะเนื่องจากแสงสีส้มจะทำให้ทุกอย่างดูน่าสะพรึ่งมากกว่าเดิมเหมือนในหนังผีที่ชอบใช้ไฟสีแปลกๆ
แสงไฟสว่างวาบเมื่อแทคยอนกดสวิตไฟ เค้าเห็นเพื่อนตัวขาวนั่งหลับบนเก้าอี้และนอนฟุบหน้าเกยเตียงนอน ที่โต๊ะหัวเตียงมีอ่างน้ำและผ้าขนหนู ถุงเจลคูลแพ็ค และกล่องยาประจำตัวนิชคุณ แทคยอนพอเดาทางได้ว่านิชคุณคงมาดูแลเค้าก่อนหน้านี้
“ขอบใจนะคุณ...แต่นายนอนตรงนี้ไม่ได้หรอก..ตะคริวกินตายเลย" แทคยอนงึมงำกับตัวเอง เค้าสะกิดเพื่อนตัวขาว2-3ที แต่ไม่มีหวี่แววว่าเพื่อนของเค้าจะรู้สึกตัว แทคยอนมองรอบๆห้อง เค้าเห็นฟูกสำหรับรับแขก1ชุกวางไว้ที่มุมห้อง เดาได้ว่ามันเป็นที่นอนเสริมสำหรับเพื่อนเค้าแน่ แทคยอนค่อยลุกจากเตียงเค้าย่องเบาไปที่ตู้เสื้อผ้าตัวเองและหยิบที่นอนสำรองออกมาอีกชุด มันเป็นของที่แม่เค้าส่งมาให้ตอนวันเกิดเพราะว่าแทคตัวใหญ่กระดูกเยอะแม่ของเค้ากลัวว่าเค้าจะเจ็บหลังเพราะฟูกที่หอพักไม่นิ่มพอ แต่แทคก็ยังไม่เคยแกะมันออกมาใช้ คนตัวใหญ่ค่อยๆแกะห่อฟูกนอนและปูลงบนฟูกสำรองสำหรับแขกเพิ่มขึ้นอีกชั้น เค้าจัดที่นอนให้ดูนุ่มน่านอนจากนั้นก็เดินกลับมายืนมองเพื่อนตัวขาวที่คู้ตัวอยู่บนเก้าอี้
แทคยอนค่อยๆสอดแขนเข้าใต้ขาและแขนของเพื่อนเบาๆ เค้าอุ้มนิชคุณขึ้นและพาเพื่อนตัวขาวมานอนบนฟูกที่เค้าเตรียมไว้พร้อมแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่เครื่องปรับอากาศเค้าสังเกตุเห็นว่าบนหน้าผากนิชคุณมีเม็ดเหงื่อเล็กๆเกาะพราวอยู่ และตามตัวก็ดูจะชื้นๆ ส่วนมินจุนเคไม่ต้องสงสัยเลยมินฮยองแทบจะแก้ผ้านอนอยู่แล้วเมื่อแทคยอนปีนบันไดโผล่หัวขึ้นไปดูสภาพเพื่อนร่วมห้อง ทุกคนดูเหมือนจะร้อนจากอุณหภูมิจากเครื่องฮีลเตอร์
"โอ๊ะ..กลับมานอนนี่ได้ไงน่ะ" นิชคุณตื่นขึ้นมาตอนฟ้าสาง เค้าลุกขึ้นนั่งและสงสัยว่าตัวเองละเมอเดินมานอนที่เตียงนอนที่มินฮยองเตรียมไว้ให้งั้นหรือ ว่าแต่เจ้าฟูกนี่หลับสบายเป็นบ้าเลย บางทีเค้าคงต้องถามมินฮยองว่าซื้อมาจากที่ไหน เจ้าฟูกนี่ทำให้อาการปวดหลังของเค้าหายไป เป็นผลทำให้เค้าตื่นสายกว่าปกติ นิชคุณอยากจะเอนตัวลงนอนบนฟูกต่อ แต่เค้านึกขึ้นได้ว่าเค้ามาทำอะไรที่ห้องของมินฮยอง นิชคุณรีบลุกขึ้นจากเตียงและปรี่ไปดูเจ้าแมวยักษ์ทันที
"โอ๊ะไข้กลับมาอีกแล้วนะแทค"
"กึ๊ดๆ" เสียงคนตัวใหญ่นอนกัดฟันดังขึ้นเบาๆ แทคยอนนอนตัวสั่นระริก เค้าพลิกตัวไปมาเพื่อหาพื้นที่อบอุ่น
"เขยิบหน่อยแทค" นิชคุณสังเกตุว่าอุณหภูมิในห้องต่ำลง คงมีใครสักคนร้อนมากไปแน่ๆ เค้าจึงตัดสินใจดันหลังเพื่อนให้ขยับตัวไปด้านหน้าของเตียงมากขึ้นเพื่อที่เค้าจะได้เข้าไปนอนด้วยได้
“โอ๊ย!!..นี่อะไรเนี่ย..เจ็บง่า..อ๋า” คนผิวขาวอุทานเมื่อเค้ามุดเค้าไปนอนหลังแทคยอนเนื่องจากเตียงนอนของห้องมินจุนเคเป็นเตียง2ชั้น การที่ผู้ชายตัวโต2คนจะเบียดตัวเข้าไปนอนด้วยกันมันยากมากจริงๆ นิชคุณทิ้งตัวลงบนกล่องเหล็กขนาด1ฝ่ามือ คนผิวขาวกระเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและหัวเค้ากระแทกเข้ากับเพดานเตียงเต็มแรง
“ นี่อะไรอะ!!..นายนี่นะรกตลอด..ทำไมไม่เก็บของให้เป็นที่เป็นทางก่อนนอนน้า ย่ะ..จริงๆเลย” นิชคุณหน้านิ่วคิ้วขมวดสบถยาวเป็นชุด เค้าหยิบฝากล่องสีเขียวมาปิดกล่องและวางลงไปตรงล่องเตียงซึ่งเค้าเดาว่าหน้าจะเป็นที่วางกล่องนั่นแหละเพราะขนาดพื้นที่มันพอดีกัน
"ตัวนายเย็นมากเลยแทค..หวังว่านายคงไม่ตายคาอกฉันนะ" คนผิวขาวกอดหลังเพื่อนไว้ เค้าขยับตัวจนแผ่นอกของตัวเองแนบไปกับแผ่นหลังสีแทนของเพื่อนตัวใหญ่ และเค้าก็หลับไปพร้อมกับคนในอ้อมกอด
มินจุนเคขยับตัวกระดุ๊กกระดิ๊กบนที่นอน เค้าดึงหมอนมาปิดตาเมื่อรู้สึกว่ามีแสงแดดยามเช้าแยงตาเค้าอยู่ หลังจากควานหาหมอนอิงอยู่สักพักมินจุนฮยองก็คิดขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนเค้ายกหมอนอิงให้นิชคุณไปใช้แทนหมอนหนุนหัว พี่ใหญ่ของบ้านรีบลุกขึ้นมานั่งทันที เค้านึกได้ว่าเค้าลืมบางอย่างไปเสียสนิทเลย
"แทคเป็นไงบ้าง" มินจุนตื่นมาตอนเช้าและรีบลงจากเตียงชั้นบนเพื่อลงมาดูเพื่อนซี้ที่นอนชั้นล่าง
แทคยอนนอนหลับสนิทโดยมีผ้านวมหนานุ่มคลุมตัวตั้งแต่คอลงมาถึงปลายขา มินจุนยกมือขึ้นอังหน้าผากเพื่อนตัวใหญ่เบาๆ ดูเหมือนว่าไข้ของเพื่อนเค้าจะลดลงมาอยู่ในอุณหภูมิที่โอเคมากแล้ว มินจุนรู้สึกโล่งใจที่เจ้าเพื่อนตัวดีอาการดีขึ้นในเช้าวันนี้
"เหมือนจะดีขึ้นครับ" เสียงนิชคุณดังขึ้นจากที่ไหนสักที่ใกล้ๆตัวเค้า มินจุนหันไปมองที่เตียงนอนของนิชคุณแต่เค้าไม่พบเจ้าของเสียง
"โอ๊ะ..คุณ....เสียง..คุณนี่..อ๋า.ผีหลอกแต่เช้าเลย.." มินจุนเคหันรีหันขวางทำสีหน้าวิตกกังวลอีกครั้ง
"ผีเผลอที่ไหนมี เสียงผมเอง..ผมอยู่นี่.. ฮยองนี่อยู่กะแทคด้วยกันบ่อยๆจะกลัวผีตามกันไปแล้วนะ"นิชคุณดึงผ้าห่มที่ปกปิดตัวเค้าอยู่ลงมา
คนผิวขาวมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและนอนกอดเพื่อนแนบแน่นยันเช้าเพราะหวังว่าไอร้อนจากตัวเค้าจะไม่ทำให้เพื่อนเค้าแข็งตาย
"เฮ้ย!!..ทำไมไปอยู่ตรงนั้นล่ะ" มินจุนตกใจสะดุ้งโหยง เค้าถอยหลังทันทีที่ผ้าห่มถูกเปิดขึ้นโดยมือขาวๆด้านหลังแทคยอน
"หมอนี่ตัวเย็นมากเลยครับ..คุณกลัวแทคหนาวตายน่ะ" นิชคุณตอบแบบซื่อๆไร้เดียงสา
"นายเปิดฮีตเตอร์ก็ได้นี่" มินจุนเคแนะนำ ใบหน้าเค้ายังคงตกใจค้างอยู่
"ฮยองไม่ได้เป็นคนมาปิดฮีลเตอร์เหรอ.." นิชคุณทำตาโตใส่มินจุนเค ก่อนจะก้มลงมองเพื่อนตัวใหญ่ด้วยท่าทีสับสน
"เฮ้ย!!...แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดนอนให้ความอบอุ่นก็ได้มั้งเกิดนายติดหวัดอีกคนจะแย่เอานะ" มินจุนเองก็งงๆ เพราะเค้ามั่นใจว่าเมื่อคืนเค้าก็คิดว่าอากาศในห้องร้อนมาก แต่เค้าไม่ได้ลงมาปิดฮีทเตอร์แล้วเปิดแอร์แทนแน่ๆ
"เพื่อนกันไม่เป็นหรอกครับฮยอง" นิชคุณยิ้มบางๆให้มินจุน
"แล้วนี่หมอนี่..ยังไม่ตื่นอีกเหรอ" มินจุนถามนิชคุณเมื่อสังเกตุว่าคนตัวใหญ่หลับสนิทจริงๆ หลับจนดูเหมือนตายไปแล้วเลย ขนาดมีคนมายืนนินทาใกล้ขนาดนี้หมอนี่ยังไม่สะทกสะท้าน
"ผมว่าให้แทคนอนยาวอีกหน่อยดีกว่าเมื่อคืนเหมือนหลับไม่ดีเลย..น่าจะเพราะไม่สบายตัวรึเปล่า" คนผิวขาวตอบอย่างคนมีภูมิอยู่บ้าง ถึงเพื่อนตัวโตจะเป็นพวกหลับง่ายตื่นยากแต่แทคยอนก็ดูแย่จริงๆเมื่อคืนนี้ ถึงนิชคุณจะกอดให้ความอบอุ่นแทคยอนไว้ เค้าก็ยังรู้สึกได้ว่าแทคยอนยังคงหนาวสั่นตลอด1ชม.แรก
"แล้วนายล่ะจะนอนต่อไหมล่ะ" มินจุนถามนิชคุณเมื่อเห็นว่าขอบตาคนผิวขาวก็ดูช้ำๆเหมือนกับนอนไม่พอเช่นกัน
"ก็ดีครับ" นิชคุณตอบ พร้อมยกมือขึ้นบิดขี้เกียจ ปากก็หาวหวอด เค้านอนไม่พอจริงๆแหละ โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์และเค้าไม่ต้องไปรับแฟนไปเดทอีกแล้ว เค้าว่างโคตรๆ ว่างจนคิดไม่ออกว่าจะเอาเวลา2วันในวันหยุดไปทำอะไร เค้าเคยใช้ชีวิต2ปีกับการคอยดูแลเทคแคร์แฟนในวันหยุดในทุกเวลาที่เค้าว่างเพราะนัมจูอยากเจอเค้าทุกวัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
‘ ทำไมกันนะ ทั้งที่ให้เวลาเธอมากขนาดนี้แล้วเธอยังทิ้งผมไปได้อีกครับแม่..คุณทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ’ นิชคุณคิดในใจ
"นายจะนอนต่อ..ตรงนี้..ไม่เมื่อยเหรอ" มินจุนฮยองถามอย่างสงสัยในเมื่อเจ้าแมวยักษ์อาการดีขึ้นแล้ว ทำไมนิชคุณไม่ลุกไปนอนที่อื่น
"ฮะอะไรนะครับ..ฮยองว่าอะไรนะ" นิชคุณมั่วแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้สนใจฟังคำพูดของมินจุนเลย
"ฮยองถามว่านายจะนอนต่อ..ตรงนี้เหรอ..ไม่เมื่อยเหรอ” มินจุนมองหน้านิชคุณอย่างสนอกสนใจมากขึ้นอีกนิด
‘ช่วงนี้หมอนี่ใจลอยโคตรเลย..คนอกหักก็แบบนี้แหละ..เฮ้ยคนบ้านเรานี่จะมีใครสักคนที่สมหวังไหมเนี่ย’
"ไปนอนเตียงฮยองข้างบนก็ได้นะสบายกว่า" มินจุนบอกนิชคุณที่ทำท่าเหม่อลอยออกนอกอวกาศอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ..ผมไปนอนเตียงที่พื้นก็ได้ครับ..หลับสบายมากเลย” นิชคุณจัดแจงขยับกล้ามเนื้อแขนขาที่หดเกร็งของตัวเองเพื่อที่จะเขยิบร่างกายตัวเองให้เบาที่สุดและลงจากเตียงไม่ให้เจ้าของเตียงตื่น
“ไม่เจ็บหลังเหรอ..เตียงฮยองนิ่มกว่านะ” มินจุนถามอย่างเป็นห่วง
“โอ๊ะ..ไม่เลยครับฟูกนอนนี่นิ่มมากเลยผมชอบมาก..ฮยองซื้อที่ไหนเนี่ยผมอยากได้มากเลย”นิชคุณเอนตัวลงนอนหลังพูดจบ เค้ารู้สึกเหมือนตาจะปิดตลอดเวลา
‘ก็ดีนะอย่างน้อยก็ทำให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่ต้องคิดว่าจะทำอะไรให้ใคร’
“ฟูกบ้าเนี่ยนะนิ่ม..โอ๊ะ!!..นี่ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย..ไอ้นี่มันฟูกที่แม่แทคส่งมาให้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ..แสดงว่าไอ้แมวนี่ตื่นมาตอนกลางคืนจริงๆสินะ..แผนสูง.. 5555 หรือว่าทนเห็นใครบางคน ทนทรมานไม่ได้กันนะ” มินจุนยิ้มคนเดียว บ่นคนเดียวจากนั้นก็พาตัวเองไปอาบน้ำให้ชุ่มปอด ปล่อยเด็กๆเค้านอนกันไปเหอะ
'นานๆทีฉันก็ควรเปิดโอกาสให้นายบ้างสินะแทค'
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น