อย่าพึ่งอ่านนะคะ ตอนนี้บทนี้ยังเป็นโครงร่างคราวๆอยู่ ยังไม่ลงรายละเอียด อาจจะมีปรับเสริมเพิ่มเติมอีกเยอะ
ในเช้าของวันนี้อากาศเริ่มเย็นสบายขึ้น ไม่ได้เย็นยะเยือกเช่นเมื่อคืน นิชคุณส่งเสื้อแขนยาวให้แฟนฟนุ่มติดกระเป๋าไปมหาลัยด้วย แทคยอนยอมความง่ายได้ไม่อยากขัดใจเเฟนหนุ่มร่างขาว และมันก็อาจจะเป็นสิ่งดีๆที่ควรจะทำของคู่รักที่ต้องห่วงสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน
ในเช้าของวันนี้อากาศเริ่มเย็นสบายขึ้น ไม่ได้เย็นยะเยือกเช่นเมื่อคืน นิชคุณส่งเสื้อแขนยาวให้แฟนฟนุ่มติดกระเป๋าไปมหาลัยด้วย แทคยอนยอมความง่ายได้ไม่อยากขัดใจเเฟนหนุ่มร่างขาว และมันก็อาจจะเป็นสิ่งดีๆที่ควรจะทำของคู่รักที่ต้องห่วงสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน
คุณ @แทคกลางวันกินข้าวยาง
จุนโฮ ยาง
มินจุน หิวมาก
แทค ยัง
คุณ กินผัดไทยไหม
มินจุน กิน
ชาน กิน
แทค บ่ายนี้ไม่กลับบ้าน ไม่ต้องทำเผื่อ
คุณ ไปไหนอ่า
แทค ไปห้องสมุด
คุณ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาไปให้
จุนโฮ โหว สุดยอด
แทค ไม่ต้องหรอก เลิกเรียนจะรีบไป
จุนโฮ แทคฮยองอย่าทำงี้สิ คุณฮยองอุตส่าห์ตั้งใจน้า
แทค @วันนี้ไม่สะดวกจริงๆ
คุณ แปปเดียวก็ไม่ได้เลยเหรอ งานด่วนหรา
แทค เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง
คุณ ยืมกลับมาสิ
แทค หนัก
คุณ เดี๋ยวช่วยแบก
จุนโฮ ช่ายเดี๋ยวช่วย
แทค จะไปทำธุระก่อน แล้วจะไปห้องสมุด
จุนโฮ แทคฮยองอย่าทำงี้สิ คุณฮยองอุตส่าห์ตั้งใจน้า
แทค @วันนี้ไม่สะดวกจริงๆ
คุณ แปปเดียวก็ไม่ได้เลยเหรอ งานด่วนหรา
แทค เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง
คุณ ยืมกลับมาสิ
แทค หนัก
คุณ เดี๋ยวช่วยแบก
จุนโฮ ช่ายเดี๋ยวช่วย
แทค จะไปทำธุระก่อน แล้วจะไปห้องสมุด
คุณ ไม่รู้แหละ เที่ยงเจอที่โรงอาหาร
จุนโฮ ตกลงจะได้กินไหม
ชาน @จุนโฮ ชื่อแทคเหรอ
แทค งั้นแปปเดียวนะ
จุนโฮ ถ้าฮยองไม่มามีเจ็บ
มินจุน ถ้าแทคมานายจะอดกิน
จุนโฮ ทำไม
ชาน นั่นสินะทำไมกัน
มินจุน : วันนี้ฮยองไม่กลับบ้านนะ
จุนโฮ : @มินจุน จะไปไหนครับฮยอง
มินจุน : ไปที่ชอบๆ
ชาน : อยากให้จุดธูปด้วยไหมครับ
มินจุน : แรง!!
จุนโฮ : แทคฮยองไปไหนแล้ว อย่าทำเรือล่มนะ
มินจุน : เรืออะไรวะ
มินจุน : วันนี้ฮยองไม่กลับบ้านนะ
จุนโฮ : @มินจุน จะไปไหนครับฮยอง
มินจุน : ไปที่ชอบๆ
ชาน : อยากให้จุดธูปด้วยไหมครับ
มินจุน : แรง!!
จุนโฮ : แทคฮยองไปไหนแล้ว อย่าทำเรือล่มนะ
มินจุน : เรืออะไรวะ
จุนโฮ : หลบไปเรือรักกำลังจะมา
ชาน : นั่นมุขหรือเปลือกหอยแครง
มินจุน : หมอยแดง ทะลึ่งนะเรา
ชาน : หอยแครงครับ
จุนโฮ : หอยอะไรวะ ไม่รู้จัก!!
ชาน : ไปหากูเกิ้ลเอาสิ
จุนโฮ : ขี้เกียจ
ชาน : ก็ขี้เกียจตลอดแหละ
จุนโฮ : พูดให้มันดีๆ
ชาน : ไม่ได้พูด พิมพ์อยู่
มินจุน : พอเลยๆ
จุนโฮ : @คุณ คุณฮยองยังอยู่ไหมครับ ทำข้าวผัดให้ผมด้วยสิ
ชาน : เป็นแฟนเค้ารึไง เค้าถึงต้องทำให้
จุนโฮ : ทำไมหึงเหรอ
ชาน : ไม่หึง พูดไม่ได้เหรอ
จุนโฮ : หึงก็บอก
ชาน : ถ้าพูดงี้ไปแล้วนะ
จุนโฮ : เออฉันก็จะไปแล้วเหมือนกัน
มินจุน : @คุณ @แทค พวกนายยังอยู่ไหม ...
มินจุน : อ่าวนี่ไปกันหมดเลยเหรอ
มินจุน : @อูยอง อยู่ไหม
อูยอง : อยู่
มินจุน : แล้วทำไมไม่คุย
อูยอง : คนมันติสซ์
มินจุน : อืม....
นิชคุณจัดแจงเตรียมทำอาหารไปให้แทคยอน และทำอีกนิดหน่อยไปเผื่อเพื่อนๆ เค้าบรรจงบรรจุอาหารลงปิ่นโตที่ซื้อมาจากประเทศไทยลงไปทีละชั้น นานมากแล้วที่เค้าไม่เคยหยิบมัันออกมาใช้ แต่โชคดีที่เค้าไว้ใจในคุณาพของเครื่องครัวตราหัวม้าลาย เครื่องครัวที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ชายหนุ่มผิวขาวจัดเถาปิ่นโตลงในถุงช็อปปิ้งมอล์ เเละเคลื่อนย้ายไปไว้ในรถคาดิลแลคสีแดงคันงาม สาเหตุที่เค้าต้องเอาปิ่นโตบรรจุในถุงก็เพราะว่าเค้ากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆทำให้รถของเค้าเปื้อน
ณ มหาลัยในช่วงกลางวันแดดแรงเปรี้ยงปร้างผิดกับอากาศเย็นสบายในตอนเช้าราวฟ้ากับเหว ช่วงกลางวันที่เป็นมื้อพักกินข้าวมีเด็กนั่งกระจัดกระจายกันไปตามจุดต่างๆทั้งสนามหญ้า ม้านั่งใต้ต้นไม้ พื้นทางเดิน เรื่อยไปจนถึงห้องอาหาร ที่จัดอย่างเป็นสัดส่วนสวยงาม กลุ่มนักศึกษาต่างก็รวมตัวกันไปตามความชอบของตัวเอง
เฟยนักศึกษาสาวปี3 นั่งก้มหน้างุดอยู่กับกองหนังสือเหมือนเช่นเดิมทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปหน่อยตรงที่เธอตื่นเต้นกว่าปกติเอามากๆ ในขณะที่เพื่อนๆร่วมกลุ่มต่างก็สนใจกับกิจกรรมของตัวเอง ไม่มีใครรับรู้ความผิดปกติของเพื่อนของเธอเลย
ด้านเด็กๆร่วมบ้านก็จับจองที่นั่งไม่ห่างจากที่เดิมมากนัก ต้นเหตุเพราะมีนักสึกษากลุ่มอื่นมาใช้สถานที่ประจำของพวกเค้าเสียแล้ว มินจุนซึ่งมาก่อนใครเพื่อน โยนกระเป๋าเป้ของตนลงบนโต๊ะอาหารที่ว่างอยู่ หยิบโทรศัพท์ออกมาไลน์ไปบอกน้องๆในกลุ่มว่าเค้าได้ที่นั่งตรงไหน จางอูยองเป็นคนที่2ที่มาถึง พี่มินจุนพพยับพเยิบส่งสัญญาณให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องมานั่งข้างเค้า ซึ่งจางอูยองก็ตามน้ำไป
จุนโฮมาถึงจุดนัดหมายคนที่3 หลังจากเค้าต้องตามเอารายงานของตัวเองที่ส่งไม่ทันในห้องเรียนไปส่งที่โต๊ะอจ.ด้วยตัวเองก่อน จุนโฮเป็นนักเรียนดีเด่นในสายการเรียนของเค้า ถึงเค้าจะดูเป็นคนง่ายๆ แต่ตัวจริงนั้นแตกต่างกันเยอะในเรื่องการเรียนและการทำงาน เค้าเป็นคนเจ้าระเบียบที่ละเอียดมาก ต้องวางแผนและตรวจสอบงานที่ตัวเองทำก่อนส่งเสมอ ส่วนมักเน่นั้นตอนนี้เค้ากำลังสนใจอย่างอื่นนอกจากการเรียนในคณะอักษรศาสตร์ นั่นก็คือการแสดงละครเวที ช่วงหลังๆนี้เค้ามักจะไปนั่งดูเพื่อนๆที่เรียนการแสดง และกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่เข้ามาขอยืมโรงละครใช้ กระทั่งการแสดงทีสิตจบของรุ่นพี่ที่กำลังจะจบ ราวกับว่าเค้าจะหันเหเป้าหมายอย่างไงอย่างงั้น เพราะแบบนี้เองเจ้าตัวถึงได้มาที่หลังคนอื่นเสมอ
แทคยอน2จิต2ใจกับการตัดสินใจว่าจะไปทำอะไรก่อน สุดท้ายเค้าก็เลือกที่จะไปทำธุระของตัวเองที่ตึกของภารโรง เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นเค้าทำของสำคัญบางอย่างหายไประหว่างที่เข้าเรียนที่ตึกA เค้าไม่รู้ว่า ของชิ้นนั้นหายไปตอนไหน ถึงแม้เค้าจะรีบกลับไปหาทันทีที่นึกได้ แต่เค้าก็ยังหามันไม่เจอ เค้าหวังว่าจะมีเจ้าพนักงานคนใดคนนึงเก็บของได้ และรอให้นักศึกษากลับไปรับคืน แน่นอนว่าเค้ามั่นใจว่าสิ่งที่เค้าทำหายไปนั้นมีเพียง2ชิ้นในโลก ถ้าบังเอิญไม่มีใครไปปรับเปลี่ยนอะไรมันละก็นะ
ด้านนิชคุณขับรถมาถึงมหาลัย เค้าได้พิกัดนัดหมายจากมินจุนฮยองเป็นที่เรียบร้อย ชานชองอาสาจะไปช่วยคุณฮยองถือปิ่นโตมาที่โรงอาหาร
เฟยรวบรวมความกล้าถือเปเปอร์ช็อตโน๊ตของเธอที่เสียเวลาย่อเป็น2ชุด ย่อให้ต่างไปจากช็อตโน๊ตของเธอเพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดหากได้เห็นมันเข้า เธอหันซ้ายแลขวา จดจ้องสายตาไปที่กลุ่มท็อปมหาลัย ในวันนี้นักศึกษากลุ่มนั้นนั่งอยู่ไกลจากกลุ่มของเธอไปพอสมควร และคนที่เธอต้องการพบตัวยังคงไม่เห็นเงา ถึงแม้เธอจะมีโอกาสได้เจอตัวใกล้ๆในคาสเรียน แต่เธอก็คิดว่ามันคงเป็นจุดเด่นเกินไปหากเธอเข้าไปทักเค้าก่อน และเเน่นอนว่าเพื่อนๆในชั้นเรียนคงแปลกใจเช่นกัน
เมื่อคืนก่อน คุณพ่อของเธอซึ่งเป็นว่าที่สส.ที่กำลังจะลงสมัครคัดเลือกเป็นตัวเเทนเขต ท่านเรียกเธอเข้าพบในยามค่ำคืน คุณแม่ของเธอมีทีท่าตื่นเต้นต่างไปจากทุกที เมื่อเธอเข้าไปพบคุณพ่อในห้องทำงาน คุณพ่อของเธอส่งสมุดปกแข็งสีดำมาให้เธอ ในนั้นมีภาพชายหนุ่มหลายคน และ1ในนั้นมีชายที่เธอรู้จักในคาสเรียนอยู่ด้วย ดูเหมือนว่าพ่อของเธอต้องการให้เธอแต่งงานกับใครสักคนที่อยู่ในสมุดเล่มหนาในมือเธอ คุณแม่ของเธอลุกมายืนข้างเธอ และอ่านคุณสมบัติของชายแต่ละคนอย่างหน้าชื่นตาบาน ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุ22ปี เหตุใดเธอจึงต้องรีบแต่งงานกัน เธอมีความฝันที่จะเรียนให้จบ และออกท่องไปบนโลกอันกว้างใหญ่นี้ ใช้ความรู้ความสามารถ และทำสิ่งที่เธออยากจะทำ นั่นก็คือ หน่วยอาสาช่วยเหลือเด็กถูกทิ้ง เด็กที่ถูกทารุณกรรม ถึงการมีแฟนจะเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงวัยอายุเท่าเธอ แต่การแต่งงานมันห่างกันไปไกล ที่สำคัญหากเธอเลือกแต่งงานกับครอบครัวที่มีอิทธิพลทางการเมือง เธออาจจะต้องจับเจ่าทั้งชีวิตอยู่กับการส่งเสริมสามี หรือคุณพ่อสามีขึ้นแท่นการปกครอง เธอไตร่ตรองระหว่างถือสมุดปกแข็งในมือ ที่น่าแปลกใจเหนือสิ่งอื่นใดคือ ชายคนที่เธอรู้จักก็เป็นหนึ่งในลูกชายของกลุ่มผู้มีอิทธิพลด้วย แน่นอนว่าเธอต้องเลือกชายคนใดคนนึงในสมุดเล่มนี้อย่างเสียไม่ได้ แต่เธอก็ขอเวลา เธอต้องไตร่ตรองให้รอบครอบ เพราะเส้นทางการเมืองมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่บอบบางในสายตาผู้ใหญ่ และเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับตัวเธอเอง
" แทค!! ทางนี้ " เสียงใสเจื้อยเเจ้วเรียกชายหนุ่มร่างยักษ์ ที่ก้าวเข้ามาในโรงอาหาร นิชคุณร้องเรียกแฟนหนุ่มของตัวเอง
แทคยอนหันตามเสียงเรียกชื่อเค้า เสียงโปร่งใสที่เค้าจำได้ขึ้นใจ เค้ารีบตรงดิ่งไปยังกลุ่มเพื่อนร่วมบ้านของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าไปได้ครึ่งทาง หญิงสาวผมดัดลอนยาวก็ก้าวมายืนตรงหน้าเค้าอย่างที่เค้าไม่ทันได้ตั้งตัว จนเกือบจะชนกับผู้หญิงตรงหน้าเข้าเต็มๆ
"เหวอ!!." ชายตัวตัวโตร้องเสียงหลง
"โทษที..ฉันก้าวขาเร็วไปหน่อย" หญิงสาวผมดัดลอนกล่าว
" ไม่เป็นไรใช่ไหม" แทคยอนถามสุภาพสตรีตรงหน้า
" ฉันโอเค...ว่าแต่นายแล้วเหรอ" เฟยรวบรวมความกล้าถามเพื่อนรวมสาขา
" หายอะไร" แทคยอนเอียงหัวสงสัยในคำถาม และเค้ายังงงด้วยว่าผู้หญิงตรงหน้าของเค้าคือใคร
"ซึงซอนเบนิมบอกว่านายเข้าโรงบาล" เฟยย่นคิ้วเข้าหากันก่อนจะตอบคำถามของคู่สนทนา
"เธอเป็นใครน่ะ...ต้องการอะไร" แทคยอนขมวดคิ้วพร้อมก้าวถอยหลังทันที
"ฉันเป็นใครเหรอ...พระเจ้า!!" เฟยหน้าชาขึ้นทันที ดูเหมือนเธอจะเป็นอากาศธาตุในสายตาพ่อหนุ่มคนนี้ซะแล้ว
"ให้ตายเถอะ!!...โอ๊ย!!...ฉันเป็นเพื่อนร่วมคลาสของนายแล้วก็นี่ ฉันทำช็อตโน๊ตทุกวิชามาให้นาย" เฟยหัวร้อน หน้าร้อน แก้มร้อนไปหมด คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธออยากจะถามแล้ว เพราะเจ้าท็อปมหาลัยเพิ่งจะฉีกหน้าเธอตะกี้
"ช็อตโน๊ต...เอามาให้ทำไม...ไม่ต้องหรอก" แทคยอนปฏิเสธทันควัน เค้ากวาดสายตามองผู้หญิงตรงหน้าจากหัวถึงปลายเท้า วกกลับขึ้นมามองใบหน้าของเธอ เค้าใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับซูจีฮูเบ เด็กชมรมเบจจีนูน่า
"ไม่เหรอ!!..นี่ฉันเสียเวลาทำให้นายนะ!!" เฟยร้องเสียงหลง เธอขย้ำกระดาษม้วนในมือของเธอจนยับย่นแบบไม่ได้ตั้งใจ
"มีอะไรกันเหรอ" เสียงโปร่งใสเอ่ยขึ้นขัดสถานการณ์ตึงเครียด
"เปล่า...ไม่มีอะไร" แทคอยนตอบเจ้าของต้นเสียงคุ้นหูทันที
"งั้นไปกินข้าวกันเหอะ...คุณรอแทคจนท้องกิ้วแล้วนะ" นิชคุณตอบกลับเสียงขึ้นจมูก แทคยอนยิ้มแห้งๆก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่แฟนตัวขาวเบาๆ เค้าตั้งใจที่จะออกไปจากสถานการ์น่าอึดอัดนี้เต็มแก่แล้ว
"ฉันไม่อยากได้คะแนนเต็มมาเพราะว่านายป่วย..ฉันทำแบบนี้เพราะอยากจะแข่งกับนายแฟร์ๆ นายควรจะรับมันไป ถึงนายจะเอามันไปทิ้ง มันก็เรื่องของนาย" เฟยแผดเสียงออกมาอย่างเหลืออด เธอเกลียดการพ่ายแพ้ เกลียดการโดนปฏิเสธ
"เธอพูดถึงคะแนนสอบในห้องเรียน แสดงว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมคลาสของฉันสินะ แต่ว่าช็อตโน๊ตของเธอทำให้ฉันได้ที่1ในเทอมนี้ไม่ได้หรอก เพราะตัวเธอเองก็ไม่เคยได้คะแนะติด1ใน5ของคลาสเรียน...เพราะถ้าเธอทำคะแนนได้สูง ฉันคงจำเธอได้แล้ว" แทคยอนตอบกลับเสียงแข็ง ใบหน้าแกร่งดุดันขึ้นทันตา
"ใจร้าย!!...ให้ตายสิ!!..นี่ฉันคิดผิดคิดถูกที่เลือกนาย...โอ๊ย!!...ฉันอยากจะบ้า" เฟยหัวเสียตอบกลับทั้งน้ำตา คำพูดของชายหนุ่มตรงหน้ากรีดทึ้งหัวใจเธออย่างเลือดเย็น
เพี้ยะ!! เสียงเนื้อฟาดลงบนเนื้อดังสนั่นไปถั่ว เรียกความสนใจคนรอบด้านให้หันมาสนใจมากขึ้น แทคยอนยกนิ้วมือเรียวยาวของตนขึ้นสัมผัสกับใบหน้าของเค้า ความเจ็บแปล๊บๆเเล่นไปทั่วแก้มตอบๆของเค้า
"นายใจร้ายจริงๆด้วย...แบบนี้ไม่โอเคเลยแทค...คุณไม่โอเคเลย" นิชคุณส่ายหัวไปมา เค้ารับไม่ได้กับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากคนรักของเค้า แทคยอนหยาบเกียรต์ของเธอเกินไป
"ฉันลืมไปว่านายเป็นพวกใจดีกับเค้าไปทั่ว" แทคยอนพูดเสียงลอดใต้ฟัน เค้าลดแขนที่โอบตัวของนิชคุณลงมา
"มันไม่เกี่ยวกับใจดีรึเปล่า!!" นิชคุณพูดเสียงขึ้นจมูก
"นายอยากให้ฉันรับโน๊ตนั่นมาเป็นอย่างเเรก...แล้วก็รอรับอย่างอื่นตามมาเรื่อยๆแบบนั้นเหรอ" แทคยอนตอบพร้อมปรายตาไปมองเจ้าของปัญหาในชีวิตเค้า
"ฉันมะ...ไม่ได้.." เฟยกัดริมฝีปากตัวเอง เธอคิดว่าแทคยอนเข้าใจจุดประสงค์ของเธอ
"ไม่ว่าผู้ใหญ่ต้องการอะไร...มันก็เรื่องของเค้า...ฉันจะไม่เดินตามเกมสนั้น...ฉันอยากให้เธอเข้าใจฉัน" แทคยอนพูดข้างหูเฟย ดังพอที่เฟยจะได้ยินแค่คนเดียว
"ไหนนายบอกว่าไม่รู้ว่าฉันเป็นใครไง" เฟยตอบกลับเสียงสั่น เพราะใบหน้าของชายที่เธอหลงปลื้มอยู่ใกล้เธอมาก ใบหน้าที่แข็งกร่าวไม่ยอมลดความดุดันลง
"ตอนแรกก็ไม่..แต่ตอนนี้นึกออกแล้ว" แทคยอนตอบเสียงลอดฟัน
"พอได้แล้วแทค!! นายกำลังทำให้เธอกลัว" นิชคุณกระชากตัวของคนร่างหนาออกห่างจากร่างหญิงสาว
"เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม" แทคยอนกล่าวก่อนจะพละตัวออกไปตามแรงดึงของแฟนตัวขาว ทิ้งให้หญิงสาวผมลอนยืนขาสั่นอยู่กับที่ เธอไม่ชอบการถูกคุกคามโดยเพศตรงข้าม แต่เธอถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว เธอตอบตกลงที่จะหมั่นกับแทคยอน พ่อแม่ของเธอได้ทำการพูดคุยกับทางผู้ปกครองของแทคยอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การแต่งงานทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่นับรวมความสมัครใจ จากประวัติคู่ดูตัวของเธอทั้งหมด แทคยอนดูเป็นคนที่ประวัติขาวสะอาดมากที่สุด เค้าไม่เคยทำผิดกฏหมาย ไม่เจ้าชู้ ไม่มั่ว ไม่ซื้อบริการทางเพศ ใช่ เธอไม่มีทางเลือก
"แทคตบคุณเหรอ" แทคยอนทำเสียงกระเง้ากระงอด นั่งเบะหน้าใส่แฟนตัวขาว
ชาน : นั่นมุขหรือเปลือกหอยแครง
มินจุน : หมอยแดง ทะลึ่งนะเรา
ชาน : หอยแครงครับ
จุนโฮ : หอยอะไรวะ ไม่รู้จัก!!
ชาน : ไปหากูเกิ้ลเอาสิ
จุนโฮ : ขี้เกียจ
ชาน : ก็ขี้เกียจตลอดแหละ
จุนโฮ : พูดให้มันดีๆ
ชาน : ไม่ได้พูด พิมพ์อยู่
มินจุน : พอเลยๆ
จุนโฮ : @คุณ คุณฮยองยังอยู่ไหมครับ ทำข้าวผัดให้ผมด้วยสิ
ชาน : เป็นแฟนเค้ารึไง เค้าถึงต้องทำให้
จุนโฮ : ทำไมหึงเหรอ
ชาน : ไม่หึง พูดไม่ได้เหรอ
จุนโฮ : หึงก็บอก
ชาน : ถ้าพูดงี้ไปแล้วนะ
จุนโฮ : เออฉันก็จะไปแล้วเหมือนกัน
มินจุน : @คุณ @แทค พวกนายยังอยู่ไหม ...
มินจุน : อ่าวนี่ไปกันหมดเลยเหรอ
มินจุน : @อูยอง อยู่ไหม
อูยอง : อยู่
มินจุน : แล้วทำไมไม่คุย
อูยอง : คนมันติสซ์
มินจุน : อืม....
นิชคุณจัดแจงเตรียมทำอาหารไปให้แทคยอน และทำอีกนิดหน่อยไปเผื่อเพื่อนๆ เค้าบรรจงบรรจุอาหารลงปิ่นโตที่ซื้อมาจากประเทศไทยลงไปทีละชั้น นานมากแล้วที่เค้าไม่เคยหยิบมัันออกมาใช้ แต่โชคดีที่เค้าไว้ใจในคุณาพของเครื่องครัวตราหัวม้าลาย เครื่องครัวที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ชายหนุ่มผิวขาวจัดเถาปิ่นโตลงในถุงช็อปปิ้งมอล์ เเละเคลื่อนย้ายไปไว้ในรถคาดิลแลคสีแดงคันงาม สาเหตุที่เค้าต้องเอาปิ่นโตบรรจุในถุงก็เพราะว่าเค้ากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆทำให้รถของเค้าเปื้อน
ณ มหาลัยในช่วงกลางวันแดดแรงเปรี้ยงปร้างผิดกับอากาศเย็นสบายในตอนเช้าราวฟ้ากับเหว ช่วงกลางวันที่เป็นมื้อพักกินข้าวมีเด็กนั่งกระจัดกระจายกันไปตามจุดต่างๆทั้งสนามหญ้า ม้านั่งใต้ต้นไม้ พื้นทางเดิน เรื่อยไปจนถึงห้องอาหาร ที่จัดอย่างเป็นสัดส่วนสวยงาม กลุ่มนักศึกษาต่างก็รวมตัวกันไปตามความชอบของตัวเอง
เฟยนักศึกษาสาวปี3 นั่งก้มหน้างุดอยู่กับกองหนังสือเหมือนเช่นเดิมทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปหน่อยตรงที่เธอตื่นเต้นกว่าปกติเอามากๆ ในขณะที่เพื่อนๆร่วมกลุ่มต่างก็สนใจกับกิจกรรมของตัวเอง ไม่มีใครรับรู้ความผิดปกติของเพื่อนของเธอเลย
ด้านเด็กๆร่วมบ้านก็จับจองที่นั่งไม่ห่างจากที่เดิมมากนัก ต้นเหตุเพราะมีนักสึกษากลุ่มอื่นมาใช้สถานที่ประจำของพวกเค้าเสียแล้ว มินจุนซึ่งมาก่อนใครเพื่อน โยนกระเป๋าเป้ของตนลงบนโต๊ะอาหารที่ว่างอยู่ หยิบโทรศัพท์ออกมาไลน์ไปบอกน้องๆในกลุ่มว่าเค้าได้ที่นั่งตรงไหน จางอูยองเป็นคนที่2ที่มาถึง พี่มินจุนพพยับพเยิบส่งสัญญาณให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องมานั่งข้างเค้า ซึ่งจางอูยองก็ตามน้ำไป
จุนโฮมาถึงจุดนัดหมายคนที่3 หลังจากเค้าต้องตามเอารายงานของตัวเองที่ส่งไม่ทันในห้องเรียนไปส่งที่โต๊ะอจ.ด้วยตัวเองก่อน จุนโฮเป็นนักเรียนดีเด่นในสายการเรียนของเค้า ถึงเค้าจะดูเป็นคนง่ายๆ แต่ตัวจริงนั้นแตกต่างกันเยอะในเรื่องการเรียนและการทำงาน เค้าเป็นคนเจ้าระเบียบที่ละเอียดมาก ต้องวางแผนและตรวจสอบงานที่ตัวเองทำก่อนส่งเสมอ ส่วนมักเน่นั้นตอนนี้เค้ากำลังสนใจอย่างอื่นนอกจากการเรียนในคณะอักษรศาสตร์ นั่นก็คือการแสดงละครเวที ช่วงหลังๆนี้เค้ามักจะไปนั่งดูเพื่อนๆที่เรียนการแสดง และกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่เข้ามาขอยืมโรงละครใช้ กระทั่งการแสดงทีสิตจบของรุ่นพี่ที่กำลังจะจบ ราวกับว่าเค้าจะหันเหเป้าหมายอย่างไงอย่างงั้น เพราะแบบนี้เองเจ้าตัวถึงได้มาที่หลังคนอื่นเสมอ
แทคยอน2จิต2ใจกับการตัดสินใจว่าจะไปทำอะไรก่อน สุดท้ายเค้าก็เลือกที่จะไปทำธุระของตัวเองที่ตึกของภารโรง เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นเค้าทำของสำคัญบางอย่างหายไประหว่างที่เข้าเรียนที่ตึกA เค้าไม่รู้ว่า ของชิ้นนั้นหายไปตอนไหน ถึงแม้เค้าจะรีบกลับไปหาทันทีที่นึกได้ แต่เค้าก็ยังหามันไม่เจอ เค้าหวังว่าจะมีเจ้าพนักงานคนใดคนนึงเก็บของได้ และรอให้นักศึกษากลับไปรับคืน แน่นอนว่าเค้ามั่นใจว่าสิ่งที่เค้าทำหายไปนั้นมีเพียง2ชิ้นในโลก ถ้าบังเอิญไม่มีใครไปปรับเปลี่ยนอะไรมันละก็นะ
ด้านนิชคุณขับรถมาถึงมหาลัย เค้าได้พิกัดนัดหมายจากมินจุนฮยองเป็นที่เรียบร้อย ชานชองอาสาจะไปช่วยคุณฮยองถือปิ่นโตมาที่โรงอาหาร
เฟยรวบรวมความกล้าถือเปเปอร์ช็อตโน๊ตของเธอที่เสียเวลาย่อเป็น2ชุด ย่อให้ต่างไปจากช็อตโน๊ตของเธอเพราะไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดหากได้เห็นมันเข้า เธอหันซ้ายแลขวา จดจ้องสายตาไปที่กลุ่มท็อปมหาลัย ในวันนี้นักศึกษากลุ่มนั้นนั่งอยู่ไกลจากกลุ่มของเธอไปพอสมควร และคนที่เธอต้องการพบตัวยังคงไม่เห็นเงา ถึงแม้เธอจะมีโอกาสได้เจอตัวใกล้ๆในคาสเรียน แต่เธอก็คิดว่ามันคงเป็นจุดเด่นเกินไปหากเธอเข้าไปทักเค้าก่อน และเเน่นอนว่าเพื่อนๆในชั้นเรียนคงแปลกใจเช่นกัน
เมื่อคืนก่อน คุณพ่อของเธอซึ่งเป็นว่าที่สส.ที่กำลังจะลงสมัครคัดเลือกเป็นตัวเเทนเขต ท่านเรียกเธอเข้าพบในยามค่ำคืน คุณแม่ของเธอมีทีท่าตื่นเต้นต่างไปจากทุกที เมื่อเธอเข้าไปพบคุณพ่อในห้องทำงาน คุณพ่อของเธอส่งสมุดปกแข็งสีดำมาให้เธอ ในนั้นมีภาพชายหนุ่มหลายคน และ1ในนั้นมีชายที่เธอรู้จักในคาสเรียนอยู่ด้วย ดูเหมือนว่าพ่อของเธอต้องการให้เธอแต่งงานกับใครสักคนที่อยู่ในสมุดเล่มหนาในมือเธอ คุณแม่ของเธอลุกมายืนข้างเธอ และอ่านคุณสมบัติของชายแต่ละคนอย่างหน้าชื่นตาบาน ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุ22ปี เหตุใดเธอจึงต้องรีบแต่งงานกัน เธอมีความฝันที่จะเรียนให้จบ และออกท่องไปบนโลกอันกว้างใหญ่นี้ ใช้ความรู้ความสามารถ และทำสิ่งที่เธออยากจะทำ นั่นก็คือ หน่วยอาสาช่วยเหลือเด็กถูกทิ้ง เด็กที่ถูกทารุณกรรม ถึงการมีแฟนจะเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงวัยอายุเท่าเธอ แต่การแต่งงานมันห่างกันไปไกล ที่สำคัญหากเธอเลือกแต่งงานกับครอบครัวที่มีอิทธิพลทางการเมือง เธออาจจะต้องจับเจ่าทั้งชีวิตอยู่กับการส่งเสริมสามี หรือคุณพ่อสามีขึ้นแท่นการปกครอง เธอไตร่ตรองระหว่างถือสมุดปกแข็งในมือ ที่น่าแปลกใจเหนือสิ่งอื่นใดคือ ชายคนที่เธอรู้จักก็เป็นหนึ่งในลูกชายของกลุ่มผู้มีอิทธิพลด้วย แน่นอนว่าเธอต้องเลือกชายคนใดคนนึงในสมุดเล่มนี้อย่างเสียไม่ได้ แต่เธอก็ขอเวลา เธอต้องไตร่ตรองให้รอบครอบ เพราะเส้นทางการเมืองมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่บอบบางในสายตาผู้ใหญ่ และเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับตัวเธอเอง
" แทค!! ทางนี้ " เสียงใสเจื้อยเเจ้วเรียกชายหนุ่มร่างยักษ์ ที่ก้าวเข้ามาในโรงอาหาร นิชคุณร้องเรียกแฟนหนุ่มของตัวเอง
แทคยอนหันตามเสียงเรียกชื่อเค้า เสียงโปร่งใสที่เค้าจำได้ขึ้นใจ เค้ารีบตรงดิ่งไปยังกลุ่มเพื่อนร่วมบ้านของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าไปได้ครึ่งทาง หญิงสาวผมดัดลอนยาวก็ก้าวมายืนตรงหน้าเค้าอย่างที่เค้าไม่ทันได้ตั้งตัว จนเกือบจะชนกับผู้หญิงตรงหน้าเข้าเต็มๆ
"เหวอ!!." ชายตัวตัวโตร้องเสียงหลง
"โทษที..ฉันก้าวขาเร็วไปหน่อย" หญิงสาวผมดัดลอนกล่าว
" ไม่เป็นไรใช่ไหม" แทคยอนถามสุภาพสตรีตรงหน้า
" ฉันโอเค...ว่าแต่นายแล้วเหรอ" เฟยรวบรวมความกล้าถามเพื่อนรวมสาขา
" หายอะไร" แทคยอนเอียงหัวสงสัยในคำถาม และเค้ายังงงด้วยว่าผู้หญิงตรงหน้าของเค้าคือใคร
"ซึงซอนเบนิมบอกว่านายเข้าโรงบาล" เฟยย่นคิ้วเข้าหากันก่อนจะตอบคำถามของคู่สนทนา
"เธอเป็นใครน่ะ...ต้องการอะไร" แทคยอนขมวดคิ้วพร้อมก้าวถอยหลังทันที
"ฉันเป็นใครเหรอ...พระเจ้า!!" เฟยหน้าชาขึ้นทันที ดูเหมือนเธอจะเป็นอากาศธาตุในสายตาพ่อหนุ่มคนนี้ซะแล้ว
"ให้ตายเถอะ!!...โอ๊ย!!...ฉันเป็นเพื่อนร่วมคลาสของนายแล้วก็นี่ ฉันทำช็อตโน๊ตทุกวิชามาให้นาย" เฟยหัวร้อน หน้าร้อน แก้มร้อนไปหมด คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธออยากจะถามแล้ว เพราะเจ้าท็อปมหาลัยเพิ่งจะฉีกหน้าเธอตะกี้
"ช็อตโน๊ต...เอามาให้ทำไม...ไม่ต้องหรอก" แทคยอนปฏิเสธทันควัน เค้ากวาดสายตามองผู้หญิงตรงหน้าจากหัวถึงปลายเท้า วกกลับขึ้นมามองใบหน้าของเธอ เค้าใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับซูจีฮูเบ เด็กชมรมเบจจีนูน่า
"ไม่เหรอ!!..นี่ฉันเสียเวลาทำให้นายนะ!!" เฟยร้องเสียงหลง เธอขย้ำกระดาษม้วนในมือของเธอจนยับย่นแบบไม่ได้ตั้งใจ
"มีอะไรกันเหรอ" เสียงโปร่งใสเอ่ยขึ้นขัดสถานการณ์ตึงเครียด
"เปล่า...ไม่มีอะไร" แทคอยนตอบเจ้าของต้นเสียงคุ้นหูทันที
"งั้นไปกินข้าวกันเหอะ...คุณรอแทคจนท้องกิ้วแล้วนะ" นิชคุณตอบกลับเสียงขึ้นจมูก แทคยอนยิ้มแห้งๆก่อนจะยกแขนขึ้นโอบไหล่แฟนตัวขาวเบาๆ เค้าตั้งใจที่จะออกไปจากสถานการ์น่าอึดอัดนี้เต็มแก่แล้ว
"ฉันไม่อยากได้คะแนนเต็มมาเพราะว่านายป่วย..ฉันทำแบบนี้เพราะอยากจะแข่งกับนายแฟร์ๆ นายควรจะรับมันไป ถึงนายจะเอามันไปทิ้ง มันก็เรื่องของนาย" เฟยแผดเสียงออกมาอย่างเหลืออด เธอเกลียดการพ่ายแพ้ เกลียดการโดนปฏิเสธ
"เธอพูดถึงคะแนนสอบในห้องเรียน แสดงว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมคลาสของฉันสินะ แต่ว่าช็อตโน๊ตของเธอทำให้ฉันได้ที่1ในเทอมนี้ไม่ได้หรอก เพราะตัวเธอเองก็ไม่เคยได้คะแนะติด1ใน5ของคลาสเรียน...เพราะถ้าเธอทำคะแนนได้สูง ฉันคงจำเธอได้แล้ว" แทคยอนตอบกลับเสียงแข็ง ใบหน้าแกร่งดุดันขึ้นทันตา
"ใจร้าย!!...ให้ตายสิ!!..นี่ฉันคิดผิดคิดถูกที่เลือกนาย...โอ๊ย!!...ฉันอยากจะบ้า" เฟยหัวเสียตอบกลับทั้งน้ำตา คำพูดของชายหนุ่มตรงหน้ากรีดทึ้งหัวใจเธออย่างเลือดเย็น
เพี้ยะ!! เสียงเนื้อฟาดลงบนเนื้อดังสนั่นไปถั่ว เรียกความสนใจคนรอบด้านให้หันมาสนใจมากขึ้น แทคยอนยกนิ้วมือเรียวยาวของตนขึ้นสัมผัสกับใบหน้าของเค้า ความเจ็บแปล๊บๆเเล่นไปทั่วแก้มตอบๆของเค้า
"นายใจร้ายจริงๆด้วย...แบบนี้ไม่โอเคเลยแทค...คุณไม่โอเคเลย" นิชคุณส่ายหัวไปมา เค้ารับไม่ได้กับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากคนรักของเค้า แทคยอนหยาบเกียรต์ของเธอเกินไป
"ฉันลืมไปว่านายเป็นพวกใจดีกับเค้าไปทั่ว" แทคยอนพูดเสียงลอดใต้ฟัน เค้าลดแขนที่โอบตัวของนิชคุณลงมา
"มันไม่เกี่ยวกับใจดีรึเปล่า!!" นิชคุณพูดเสียงขึ้นจมูก
"นายอยากให้ฉันรับโน๊ตนั่นมาเป็นอย่างเเรก...แล้วก็รอรับอย่างอื่นตามมาเรื่อยๆแบบนั้นเหรอ" แทคยอนตอบพร้อมปรายตาไปมองเจ้าของปัญหาในชีวิตเค้า
"ฉันมะ...ไม่ได้.." เฟยกัดริมฝีปากตัวเอง เธอคิดว่าแทคยอนเข้าใจจุดประสงค์ของเธอ
"ไม่ว่าผู้ใหญ่ต้องการอะไร...มันก็เรื่องของเค้า...ฉันจะไม่เดินตามเกมสนั้น...ฉันอยากให้เธอเข้าใจฉัน" แทคยอนพูดข้างหูเฟย ดังพอที่เฟยจะได้ยินแค่คนเดียว
"ไหนนายบอกว่าไม่รู้ว่าฉันเป็นใครไง" เฟยตอบกลับเสียงสั่น เพราะใบหน้าของชายที่เธอหลงปลื้มอยู่ใกล้เธอมาก ใบหน้าที่แข็งกร่าวไม่ยอมลดความดุดันลง
"ตอนแรกก็ไม่..แต่ตอนนี้นึกออกแล้ว" แทคยอนตอบเสียงลอดฟัน
"พอได้แล้วแทค!! นายกำลังทำให้เธอกลัว" นิชคุณกระชากตัวของคนร่างหนาออกห่างจากร่างหญิงสาว
"เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม" แทคยอนกล่าวก่อนจะพละตัวออกไปตามแรงดึงของแฟนตัวขาว ทิ้งให้หญิงสาวผมลอนยืนขาสั่นอยู่กับที่ เธอไม่ชอบการถูกคุกคามโดยเพศตรงข้าม แต่เธอถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว เธอตอบตกลงที่จะหมั่นกับแทคยอน พ่อแม่ของเธอได้ทำการพูดคุยกับทางผู้ปกครองของแทคยอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การแต่งงานทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่นับรวมความสมัครใจ จากประวัติคู่ดูตัวของเธอทั้งหมด แทคยอนดูเป็นคนที่ประวัติขาวสะอาดมากที่สุด เค้าไม่เคยทำผิดกฏหมาย ไม่เจ้าชู้ ไม่มั่ว ไม่ซื้อบริการทางเพศ ใช่ เธอไม่มีทางเลือก
"แทคตบคุณเหรอ" แทคยอนทำเสียงกระเง้ากระงอด นั่งเบะหน้าใส่แฟนตัวขาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น